แต่เมื่อพระคริสต์ทรงถวายพระองค์เองเป็นเครื่องสัตวบูชา
เพราะบาปเพียงครั้งเดียวเป็นเครื่องบูชาที่ลบบาปได้ตลอดไป
พระองค์ก็เสด็จประทับเบื้องขวาของพระเจ้า
(ฮบ.10:12)
บทอ่าน ฮบ.๑๐:๑-๓๙
เราต้องขอบพระคุณพระเจ้าที่พระองค์ทรงดลใจให้
อ.มัทธิว เขียนพระกิตติคุณขึ้น พระกิตติคุณของ อ.มัทธิว ถ่ายทอดออกมาในลักษณะของการเติมเต็มให้สมบูรณ์
พระเยซูคริสต์สำแดงออกมาในฐานะผู้ที่ทำให้พระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิมสำเร็จ เป็นสะพานที่เชื่อมระหว่างพันธสัญญาทั้งสองภาค
ระหว่างการเตรียม และการสำเร็จอย่างสมบูรณ์ พระเยซูในฐานะการเติมเต็มที่ทำให้คำพยากรณ์ต่างๆ
เป็นจริง คือ โดยการเสด็จมาของพระเยซูคริสต์
อาณาจักรของพระเจ้าที่รอคอยได้มาถึงแล้ว พระเยซูคริสต์ ตรัสว่า“อย่าคิดว่าเรามาเลิกล้างธรรมบัญญัติและคำของผู้เผยพระวจนะ
เรามิได้มาเลิกล้าง แต่มาทำให้สมบูรณ์ทุกประการ เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า
ตราบใดที่ฟ้าและดินดำรงอยู่ แม้อักษรหนึ่งหรือขีดๆหนึ่งก็จะไม่สูญไปจากธรรมบัญญัติ
จนกว่าสิ่งที่จะต้องเกิด ได้เกิดขึ้นแล้ว เพราะเราบอกท่านทั้งหลายว่า
ถ้าความชอบธรรมของท่าน ไม่ยิ่งกว่าความชอบธรรมของพวกธรรมาจารย์
และพวกฟาริสี ท่านจะไม่มีวันได้เข้าสู่แผ่นดินสวรรค์”
(มธ.๕:๑๗-๑๘,๒๐)
ในสายตาคนร่วมสมัยกับพระเยซูคริสต์อาจจะดูว่าพระองค์เหมือนจะไม่ให้ความเคารพต่อพระบัญญัติ
อย่างเช่น การทำผิดกฎวันสะบาโต การดูถูกกฎของความบริสุทธิ์ที่ได้จากพิธีกรรม
และการเมินเฉยต่อบัญญัติของการถืออดอาหาร
แต่พระองค์ย้ำว่าพระองค์นั้นเคารพบัญญัติของพระเจ้าเสมอ เหมือนที่พระองค์ตรัสใน มัทธิวบทที่๕ข้อ๑๗ข้อ๑๘และข้อ๒๐
สาวกของพระองค์เองคงสงสัยเหมือนกันว่าพวกเขาจะชอบธรรมมากกว่าพวกฟาริสีที่เป็นพวกชอบธรรมที่สุดในโลก
แล้วด้วยสาเหตุอะไรผู้ติดตามพระเยซูคริสต์ จึงมีความชอบธรรมมากกว่าพวกที่ชอบธรรมที่สุดในโลก
แต่ความชอบธรรมของคริสเตียน ชอบธรรมกว่าของฟาริสีเพราะมีความล้ำลึกมากกว่าพระองค์กล่าวว่า
“ท่านทั้งหลายได้ยินคำซึ่งกล่าวไว้แก่คนโบราณว่า อย่าฆ่าคน ถ้าผู้ใดฆ่าคน
ผู้นั้นจะต้องถูกพิพากษาลงโทษ 22เราบอกท่านทั้งหลายว่า ผู้ใดโกรธพี่น้องของตน
ผู้นั้นจะต้องถูกพิพากษาลงโทษ ถ้าผู้ใดจะพูดกับพี่น้องว่า "อ้ายโง่"
ผู้นั้นต้องถูกนำไปที่ศาลสูงให้พิพากษาลงโทษและผู้ใดจะว่า "อ้ายบ้า"
ผู้นั้นจะมีโทษถึงไฟนรก 23เหตุฉะนั้น ถ้าท่านนำเครื่องบูชามาถึงแท่นบูชาแล้ว
และระลึกขึ้นได้ว่า พี่น้องมีเหตุขัดเคืองข้อหนึ่งข้อใดกับท่าน 24จงวางเครื่องบูชาไว้ที่หน้าแท่นบูชา
กลับไปคืนดีกับพี่น้องผู้นั้นเสียก่อน
แล้วจึงค่อยมาถวายเครื่องบูชาของท่าน 25จงปรองดองกับคู่ความโดยเร็วในขณะที่พากันไปศาล
เกลือกว่าคู่ความนั้นจะอายัดท่านไว้กับผู้พิพากษา
แล้วผู้พิพากษาจะมอบท่านไว้กับผู้คุม และท่านจะต้องถูกขังไว้ในเรือนจำ 26เราบอกความจริงแก่ท่านว่า
ท่านจะออกจากที่นั่นไม่ได้กว่าจะได้ใช้หนี้จนครบ 27"ท่านทั้งหลายได้ยินคำซึ่งกล่าวไว้ว่า
อย่าล่วงประเวณีผัวเมียเขา 28ฝ่ายเราบอกท่านทั้งหลายว่า
ผู้ใดมองผู้หญิงเพื่อให้เกิดใจกำหนัดในหญิงนั้น
ผู้นั้นได้ล่วงประเวณีในใจกับหญิงนั้นแล้ว 29ถ้าตาข้างขวาของท่านทำให้ตัวหลงผิด
จงควักออกทิ้งเสียเพราะว่าถึงจะเสียอวัยวะอย่างหนึ่ง
ก็ดีกว่าตัวของท่านจะต้องลงนรก30ถ้ามือข้างขวาทำให้หลงผิด
จงตัดทิ้งเสียเพราะถึงจะเสียอวัยวะอย่างหนึ่ง ก็ดีกว่าตัวท่านจะต้องลงนรก”(มธ.๕:๒๑-๓๐) สิ่งนี้เป็นความชอบธรรมทางจิตใจ
เป็นความชอบธรรมที่ไม่ได้มาจากคำพูด และการกระทำเท่านั้น แต่ด้วยความคิดและจุดมุ่งหมาย
ดังนั้นโดยความเข้าใจเช่นนี้พระองค์จึงเป็นส่วนที่เติมเต็มให้แก่ธรรมบัญญัติ
พระองค์ทรงนำไปถึงจุดจบที่สมเหตุสมผล