![]() |
“ปราชญ์”
เรียกได้อีกหลายชื่อ เช่น ปราชญ์ชาวบ้าน นักคิดท้องถิ่น
หรือครูภูมิปัญญา
แล้วแต่จะเรียกกัน ปราชญ์จะมีมากมายในหลายด้านแล้วแต่งานที่ปฏิบัติจนบังเกิดผลดีต่อชุมชนและสังคม
คุณสมบัติของผู้ที่เป็นปราชญ์ คือ คนเหล่านี้มีความยุติธรรม มีความเป็นธรรม มีความรัก มีความเมตตา อยากช่วยคนโดยลงมือกระทำจริงๆ คิดทำสรุปประสบการณ์เป็นบทเรียนนำมาเป็นความรู้ให้คนอื่นๆ
ซึ่งจะพบเห็นได้อย่างชัดเจน มีทั้งหลักความรู้ และหลักการปฏิบัติตามแนวทางวิถีชีวิตของพวกเขา
การกระทำสิ่งเหล่านี้ก็ด้วยเกิดจากความรัก ที่มีแรงบันดาลใจจะ
แบ่งปันแก่ผู้อื่น
“คนโง่”
อาจเป็นคนโง่ในทุกเรื่องคือ คนที่ขี้เกียจไม่เอาการเอางานและความรู้
เห็นผิดเป็นชอบ ไม่พัฒนาตนเองให้ดีขึ้นตามวัยตามฐานะ
แล้วโทษผู้อื่นหรือตนเองเกินควรขนเป็นนิสัยทั้งกระทำและพูดขาดความยั้งคิด
ก่อความเสียหายกับตนเองและผู้อื่นอยู่เนื่องๆ หรืออาจเป็นคนโง่ในบางเรื่องคือ
ไม่เข้าใจหรือทำไม่ถูกต้องในบางเรื่อง อาจจะเป็นเรื่องการเรื่องงาน
หรือไม่ถูกกาละเทสะ ดังนั้นทุกคนก็มีโอกาสที่จะพลาดได้ถ้าขาดการพิจารณาอย่างรอบคอบ
องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ตรัสเตือนผ่านเหตุการณ์ใน 1พก.12:1-18 พอสรุปได้ว่า พระราชาเรโหโบอัมราชบุตรของกษัตริย์โซโลมอนเมื่อเขาขึ้นเป็นกษัตริย์แห่งอิสราเอล เขาควรกระทำตามคำแนะนำของเหล่าผู้เฒ่าผู้อาวุโสซึ่งเต็มไปด้วยประสบการณ์
ในการบริหารจัดการบ้านเมือง แต่แทนที่จะกระทำเช่นนั้น เขากลับทำตามคำแนะนำอันโง่เขลาของเพื่อนหนุ่มๆ
ที่เติบโตมาด้วยกัน ผลก็คือ ประชาชนส่วนใหญ่ในอาณาจักรไม่สนับสนุนการเป็นกษัตริย์ของเขาอีกต่อไป
เยาวชนมักทำตามคำแนะนำของเพื่อนๆ
รุ่นราวคราวเดียวกัน แต่จงระวัง คำแนะนำอาจฟังดูดี แต่อาจไม่เป็นประโยชน์เลย อาจทำให้ได้รับความเสียหายด้วยซ้ำ
เนื่องจากขาดประสบการณ์อย่างที่ผู้ใหญ่มี ดังนั้นจึงไม่ได้คิดว่าการตัดสินใจที่ทำในตอนนี้ อาจส่งผลทำให้เกิดความเสียหายในอนาคตก็เป็นได้ อย่าเลียนแบบ พระราชาเรโหโบอัม ขอให้สงบใจอธิษฐานขอการทรงนำจากองค์พระผู้เป็นเจ้า
ปรึกษาพูคคุยขอคำแนะนำจากพ่อแม่ ทำตามคำแนะนำของท่าน
และเรียนรู้จากสติปัญญาของท่าน เพราะท่านทั้งสองเป็น “ปราชญ์” สำหรับชีวิตของพวกเราเสมอ
*****************************
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น