เหตุที่เราตรากตรำทำงาน และทนสู้
ก็เพราะว่าเรามี “ความหวังใจ” ในพระเจ้า
ผู้ดำรงพระชนม์
พระผู้ช่วยให้รอดของคนทั้งปวง โดยเฉพาะของผู้ที่เชื่อในพระองค์
(1 ทธ.4:10)
“ความหวัง” คือ ความเชื่อว่าเป็นไปได้ และจะเกิดขึ้นในอนาคต
เป็นพลังผลักดันให้ชีวิตดำเนินไป ทำให้เรามีแรงบันดาลใจ มีความมุ่งมั่น พยายาม
อดทน ต่อสู้กับอุปสรรคต่างๆ ได้ ต่างคนต่างมีความหวังที่แตกต่างกัน
แต่ทุกคนล้วนทำทุกอย่าง เพื่อให้ความหวังนั้นประสบผลสำเร็จ คนเราถ้าไม่มีความหวังในชีวิตก็เปรียบเหมือนต้นไม้ที่กำลังจะตาย ที่ไม่สามารถออกดอกออกผลที่สวยงามได้ มักอยู่ไปอย่างวันต่อวันโดยไร้จุดหมายในชีวิต สาเหตุการฆ่าตัวตายมีหลายอย่าง
เช่น ความยากจน การเจ็บป่วย ตกงาน และไม่มีงานทำ ปัญหาครอบครัว ปัญหาเพศตรงกันข้าม
เป็นต้น แต่อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกผิดหวังและหมดหวัง มองไม่เห็นอนาคต ไม่มีทางออก
ก็เป็นส่วนหนึ่งที่เลือกจะฆ่าตัวตายเช่นกัน
คนเราเมื่อหมดหวังในชีวิตจากสิ่งของ ลาภยศ เงินทอง ความรู้ คนใกล้ชิด ทุกคนมักมองหาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เริ่มแสวงหา และมอบความไว้วางใจในสิ่งที่ตามองไม่เห็น เริ่มแสวงหาการช่วยเหลือจากสิ่งที่อยู่เบื้องบน
สำหรับชีวิตคริสเตียนแล้ว เราจะไม่พึ่งพาสิ่งที่ตัวเองสร้างขึ้นมา เราจะพึ่งพาพระผู้สร้างเรา ผู้ทรงประทานทั้งชีวิต
ร่างกายและจิตวิญญาณให้แก่เรา นั่นคือ “พระเจ้า”
พระองค์ประทาน แนวทางการดำเนินชีวิตผ่าน เปาโล ว่า “ดังนั้น
ยังตั้งอยู่สามสิ่ง คือ ความเชื่อ ความหวังใจ และความรัก แต่ความรักใหญ่ที่สุด”
(1 คร. 13:13) เปาโลหนุนใจพี่น้องชาวโครินธ์ให้ดำเนินชีวิตที่ประกอบด้วย
“ความเชื่อ” อันเป็นรากฐานและสาระของข่าวประเสริฐเกี่ยวกับพระเจ้า “ความหวังใจ”
เป็นท่าทีและจุดศูนย์รวมความสนใจ และ “ความรัก” เป็นการกระทำ
เมื่อความเชื่อและความหวังใจอยู่ในวิถีทางที่ถูกต้อง
เราก็สามารถที่จะรักได้อย่างเต็มที่
เพราะเราเข้าใจแล้วว่าพระเจ้าทรงรักมนุษย์อย่างไร
ดาวิดเป็นแบบอย่างได้ในเรื่อง อดทน รอคอย และหวังใจ ต่อการทรงนำของพระเจ้า
เพื่อกิจการต่างๆ จะสำเร็จตามพระประสงค์ของพระองค์ ดาวิดเผชิญหลายสิ่ง ในเมืองเคอีลาห์
และใน
ถิ่นทุรกันดาร“เขาบอกดาวิดว่า "ดูเถิด
คนฟีลิสเตียกำลังรบเมืองเคอีลาห์อยู่ และปล้นเอาข้าว
ที่ลาน" 2 ดาวิดจึงทูลถามพระเจ้าว่า "ควรที่ข้าพระองค์จะไปต่อสู้กับคนฟีลิสเตียเหล่านี้หรือไม่"
และพระเจ้าตรัสกับดาวิดว่า "จงไปต่อสู้คนฟีลิสเตีย
และช่วยเมืองเคอีลาห์ไว้" 3 แต่คนของดาวิดเรียนท่านว่า "ดูเถิด
เราอยู่ในยูดาห์นี่ก็ยังกลัวอยู่
ถ้าเราขึ้นไปยังเคอีลาห์สู้รบกับกองทัพของฟีลิสเตีย
เราจะยิ่งกลัวมากขึ้นเท่าใด" 4 แล้วดาวิดก็ทูลถามพระเจ้าอีก และพระเจ้าตรัสตอบท่านว่า "จงลุกขึ้นลงไปยังเคอีลาห์เถิด
เพราะเราจะมอบคนฟีลิสเตียไว้ในมือของเจ้า" 5
และดาวิดกับคนของท่านก็ไปยังเคอีลาห์ต่อสู้กับคนฟีลิสเตีย
นำเอาสัตว์เลี้ยงของเขาไป และฆ่าฟันเขาทั้งหลายเสียเป็นอันมาก ดังนั้นแหละดาวิดก็ได้ช่วยกู้ชาวเมืองเคอีลาห์ไว้
6 อยู่มา เมื่ออาบียาธาร์บุตรของอาหิเมเลคหนีไปหาดาวิดที่เมืองเคอีลาห์นั้น
เขาถือเอโฟดลงมาด้วย 7 มีคนไปทูลซาอูลว่า ดาวิดมาที่เคอีลาห์แล้ว ซาอูลจึงตรัสว่า
"พระเจ้าทรงมอบเขาไว้ในมือเราแล้ว เพราะที่เขาเข้าไปในเมืองที่มีประตู และดาล
เขาก็ขังตัวเองไว้" 8 และซาอูลทรงให้เรียกพลทั้งปวงเข้าสงคราม
ให้ลงไปยังเคอีลาห์ เพื่อล้อมดาวิดกับคนของท่านไว้ 9 ดาวิดทราบว่า
ซาอูลทรงคิดร้ายต่อท่าน ท่านจึงพูดกับอาบียาธาร์ปุโรหิตว่า
"จงนำเอาเอโฟดมาที่นี่เถิด" 10 ดาวิดกราบทูลว่า
"ข้าแต่พระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่งอิสราเอล ผู้รับใช้ของพระองค์ได้ยินแน่ว่า
ซาอูลหาช่องที่จะมายังเคอีลาห์ เพื่อทำลายเมืองนี้ เพราะข้าพระองค์เป็นเหตุ 11
ประชาชนชาวเคอีลาห์จะมอบข้าพระองค์ไว้ในมือท่านหรือ
ซาอูลจะเสด็จมาดังที่ผู้รับใช้ของพระองค์ได้ยินนั้นหรือ ข้าแต่พระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่งอิสราเอล
ขอพระองค์ทรงบอกผู้รับใช้ของพระองค์เถิด" และพระเจ้าตรัสว่า
"เขาจะลงมา" 12 แล้วดาวิดจึงกราบทูลว่า "ประชาชนชาวเคอีลาห์จะมอบข้าพระองค์
และคนของข้าพระองค์ไว้ในมือของซาอูลหรือ" และพระเจ้าตรัสว่า
"เขาทั้งหลายจะมอบเจ้าไว้" 13
แล้วดาวิดกับคนของท่านซึ่งมีประมาณหกร้อยคน ก็ลุกขึ้นไปเสียจากเคอีลาห์
และเขาทั้งหลายก็ไปตามแต่ที่เขาจะไปได้ เมื่อมีคนไปทูลซาอูลว่า
ดาวิดหนีไปจากเคอีลาห์แล้ว ซาอูลก็ทรงเลิกการติดตาม” (1 ซมอ.23:1-13) ชาวฟีลิสเตียปล้นเสบียงอาหารทั้งหมดของชาวเมืองเคอีลาห์
ก่อนที่ดาวิดจะลงมือทำอะไรเขาทูลขอการทรงนำจากพระเจ้า(1 ซมอ.23:6) ดาวิดฟังคำสั่งของพระเจ้า และปฏิบัติตาม
ต่อมาซาอูลทราบข่าวว่าดาวิดติดอยู่ที่เมืองเคอีลาห์ เขาคิดว่าพระเจ้าทรงมอบดาวิดไว้ในมือของเขาแล้ว
ซาอูล อยากจะฆ่าดาวิดมากเสียจนตีความเหตุการณ์ทุกอย่างว่าพระเจ้าทรงเห็นชอบ เขาได้ยกกองทัพไปยังเมืองเคอีลาห์
ดาวิดก็ทูลขอการทรงนำจากพระเจ้า (1 ซมอ.23:11)
ดาวิดก็ปฏิบัติตามที่พระเจ้าได้ตอบสิ่งที่เขาทูลถาม
ดาวิดนำไพร่พลทั้งหมดออกจากเมืองไป จึงรอดพ้นจากการไล่ล่าของซาอูล ดาวิดเชื่อและหวังใจในพระเจ้าที่จะทรงช่วยเหลือเขาอย่างแน่นอน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น