วันอาทิตย์ที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2559

ผู้เลี้ยง (ตอนสุดท้าย)

เป็นคำสอนที่ปฏิเสธว่าพระเยซูเป็น “พระเจ้า”
           วลีที่ว่า “เขาปฏิเสธพระเยซูคริสต์ ผู้ทรงเป็นเจ้านาย และองค์พระผู้เป็นเจ้าของเราแต่องค์เดียว” ในพระธรรมยูดาบทที่ 1ข้อที่ 4 นั้นเป็นสถานการณ์ที่คุกคามความเชื่อที่มีต่อองค์พระเยซูคริสต์ 
“ลัทธินอสติก”เชื่อว่าวัตถุในโลกเป็นสิ่งที่ไม่มีอยู่จริง หรือเป็นแก่นแห่งความชั่ว เป็นคำสอนที่ขัดกับความเชื่อพื้นฐานในพระคัมภีร์ ความเชื่อแบบนี้ทำลายหลักความเชื่อเกี่ยวกับการเนรมิตสร้างโลก เพราะพระเจ้าจะสร้างสิ่งที่ไม่เป็นจริง หรือสิ่งที่ชั่วได้อย่างไร มันทำลายหลักความเชื่อเกี่ยวกับการบังเกิดเป็นมนุษย์ของพระเยซูคริสต์ เพราะพระเจ้าจะอยู่ในร่างกายได้อย่างไร ถ้าร่างกายมนุษย์เป็นสิ่งที่ไม่เป็นจริง และชั่วช้า พวกเขาพยายามผสมผสานคำสอนเรื่องวัตถุนี้ให้เข้ากับคำสอน ของอัครทูตเกี่ยวกับ
พระคริสต์ โดยอธิบายว่าพระกายของพระองค์ไม่ใช่ร่างกายของมนุษย์จริงๆ แต่เป็นภาพลวงตา พระองค์เพียงแต่ดูเหมือนว่าสถิตอยู่ในร่างกายมนุษย์ พวกนี้เรียก   ตัวเองว่า “โดเซทิส” แต่ถ้าพระคริสต์มิได้ทรงเกิดเป็นมนุษย์จริงๆ การสิ้นพระชนม์และการฟื้นคืนพระชนม์ของพระองค์ก็เป็นของปลอมด้วย ดังนั้นข่าวประเสริฐก็เป็นเรื่องราวของการโกหก และปราศจากฤทธิ์อำนาจ
                                    1ยน4:1-3 ท่านที่รักทั้งหลาย อย่าเชื่อวิญญาณเสียทุกๆ วิญญาณ แต่จงพิสูจน์วิญญาณนั้นๆ ว่ามาจากพระเจ้าหรือไม่ เพราะว่ามีผู้พยากรณ์เท็จเป็นอันมากจาริกไปในโลก 2 โดยข้อนี้ ท่านทั้งหลายก็จะรู้จักพระวิญญาณของพระเจ้า คือ วิญญาณทั้งปวงที่ยอมรับว่า พระเยซูคริสต์ได้เสด็จมาเป็นมนุษย์ วิญญาญนั้นก็มาจากพระเจ้า 3 และวิญญาณทั้งปวงที่ไม่ยอมรับเชื่อพระเยซู วิญญาณนั้นก็ไม่ได้มาจากพระเจ้า วิญญาณนั้นแหละเป็นปฏิปักษ์ของพระคริสต์ ซึ่งท่านทั้งหลายได้ยินว่าจะมา และบัดนี้ก็อยู่ในโลกแล้ว ในช่วงเวลานั้นคริสเตียนได้รับคำเตือนให้ระวังผู้ที่ปฏิเสธการบังเกิดเป็นมนุษย์ของพระคริสต์  อ.ยอห์นพูดถึงวิญญาณอื่นๆที่แพร่กระจายคำสอนเท็จให้ระบาดไปทั่ว ท่านเตือนให้ระวังคำสอนผิดดังกล่าวไว้สองประการคือ อย่าเชื่อวิญญาณเสียทุกๆ วิญญาณ” และ “จงพิสูจน์วิญญาณนั้นๆ ว่ามาจากพระเจ้าหรือไม่” ต้องมีการ ทดสอบ ตรวจสอบ พิสูจน์ หรือ พินิจพิเคราะห์ ว่าสิ่งที่พูดนั้นแท้หรือไม่ คำสอนผิดออกมาจาก “วิญญาณ” วิญญาณเหล่านั้นเป็นวิญญาณที่ชั่วร้าย ซาตานเป็นผู้ให้กำเนิดความจริงแบบหลอกๆ ทั้งปวง พวกเราได้รับคำเตือนให้พินิจพิเคราะห์ลมปากแห่งหลักคำสอนทั้งปวง โดยเปรียบเทียบกับพระคำของพระเจ้า เพื่อไม่ให้พวกเราจะถูกวิญญาณที่หลอกลวงนำพาให้หลงผิด อ.ยอห์นจึงให้หลักเกณฑ์บางประการที่ช่วยพวกเราในการแยกแยะ ความจริงและความเท็จ คือ “โดยข้อนี้ ท่านทั้งหลายก็จะรู้จักพระวิญญาณของพระเจ้า คือ วิญญาณทั้งปวงที่ยอมรับว่า พระเยซูคริสต์ได้เสด็จมาเป็นมนุษย์ วิญญาญนั้นก็มาจากพระเจ้า และวิญญาณทั้งปวงที่ไม่ยอมรับเชื่อพระเยซู วิญญาณนั้นก็ไม่ได้มาจากพระเจ้า” อ.ยอห์นหักล้างคำสอนเท็จของพวก โดเซทิกนอสติกที่กำลังแพร่หลายในสมัยนั้น คำสอนที่ว่าคือพระคริสต์ได้เสด็จมาจริงๆ แต่ไม่ได้มาในรูปกายมนุษย์ พวกเขากลับสอนว่าพระองค์เสด็จมาปรากฏในรูปของวิญญาณ กล่าวอีกนียหนึ่งพวกเขาเชื่อว่าพระเยซูแห่งนาซาเล็ธ ไม่ใช่พระคริสต์ พวกเขาอ้างว่าพระคริสต์ได้เสด็จมาในรูปวิญญาณที่ลึกลับ พวกเขาจึงปฏิเสธการเสด็จมารับสภาพมนุษย์ของพระเยซูคริสต์ ในฐานะเป็นทั้งพระเจ้าและมนุษย์
            ถ้าหากเชื่อแบบนี้ก็ขัดแย้งกับแก่นแท้แห่งหลักคำสอนเกี่ยวกับพระคริสต์ ถ้าพระเยซูแห่งนาซาเล็ธไม่ใช่มนุษย์ผู้เป็นพระเจ้า หลักการเกี่ยวกับการเสด็จมารับสภาพของมนุษย์ของพระคริสต์ และพระราชกิจในการทรงไถ่ของพระองค์ก็เป็น “โมฆะ” คำสอนเท็จที่ถูกเผยแพร่โดยวิญญาณชั่วเหล่านั้น ระบาดไปทั่วในสมัยอ.ยอห์น ดังนั้นท่านจึงย้ำให้สรรเสริญพระเจ้าที่พระองค์สถิติอยู่ในเรา คือ “ พระวิญญาณบริสุทธิ์” พระองค์ทรงเป็นใหญ่กว่าอำนาจของซาตาน ถึงแม้ว่าอาจมีการสู้รบดุเดือดในสมรภูมินี้ก็ตาม แต่สำหรับคริสเตียนที่บังเกิดใหม่และดำเนินชีวิตอยู่ในความเชื่อแท้แล้ว ย่อมรู้ว่าพระวิญญาณบริสุทธิ์ยิ่งใหญ่กว่าซาตานที่อยู่บนโลกใบนี้แน่นอน ปรากฏการณ์นี้มีภาพเด่นชัดขึ้นเรื่อยๆ จนถึงทุกวันนี้ กลุ่มลัทธิเทียมเท็จต่างๆ ได้รับการยอมรับในโลกทุกวันนี้ ในทางตรงกันข้าม คริสเตียนที่ ปฏิบัติตามพระคัมภีร์ เชื่อพระคัมภีร์ และทำตามแบบของพระเจ้า กลับถูกโลกเมินเฉยหรือไม่ก็ถูกโลกเยาะเย้น ยน.17:14 ข้าพระองค์ได้มอบพระดำรัสของพระองค์ให้แก่เขาแล้ว และโลกนี้ได้เกลียดชังเขา เพราะเขาไม่ใช่ของโลก เหมือนดังที่ข้าพระองค์ไม่ใช่ของโลก องค์พระเยซูคริสต์ตรัสล่วงหน้าถึงเรื่องนี้มาแล้ว นั้นคือคนที่เชื่อพระคัมภีร์อย่างแท้จริงจะไม่มีวันเป็นที่ยอมรับของโลก ในทางตรงกันข้ามโลกจะยอมรับคนที่อยู่ฝ่ายโลกเท่านั้น
จงระวังบรรดาผู้สอนเท็จที่โลกให้การยอมรับอย่างกว้างขวาง !!!

อ่านบทความอื่นๆได้ที่ http://theword-2015.blogspot.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น