“ เพราะว่า พระเจ้าทรงช่วยข้าพเจ้า เพราะฉะนั้น ข้าพเจ้าจึงไม่ขายหน้า
เพราะฉะนั้น ข้าพเจ้าจึงตั้งหน้าของข้าพเจ้าอย่างหินเหล็กไฟ
และข้าพเจ้าทราบว่าข้าพเจ้าจะไม่ได้อาย 8 พระองค์ผู้ทรงแก้แทนข้าพเจ้าก็อยู่ใกล้ ใครจะสู้คดีกับข้าพเจ้า
ก็ให้เรายืนอยู่ด้วยกัน ใครเป็นปฏิปักษ์ของข้าพเจ้า ก็ให้เขามาใกล้ข้าพเจ้า 9
ดูเถิด พระเจ้าทรงช่วยข้าพเจ้า ใครจะกล่าวโทษข้าพเจ้าว่ามีความผิด ดูเถิด
บรรดาเขาทุกคนจะร่อยหรอไป เหมือนอย่างเสื้อผ้า ตัวแมลงจะกินเขาเหล่านั้นเสีย ” (อสย.50:7-9) ความเข้มแข็งของผู้รับใช้
เป็นผลของการฝึกฝนและการตีสอนขององค์พระผู้เป็นเจ้า
ตามข้อพระคัมภีร์อิสยาห์บทที่ห้าสิบข้อสี่ถึงหก ที่ได้ใคร่ครวญไปนั้นพระคำนี้เผยให้เราทราบว่า
“เคล็ดลับของความเข้มแข็งภายในตัวเรานั้น ก็คือความรู้แน่แก่ใจตนเองว่า “ องค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นผู้ช่วยเหลือเรา ” พระคำข้างบนนี้น่าจะเป็นที่หนุนใจของ
ลูกา และเปาโล เมื่อลูกาบันทึกข้อพระคำว่า“...พระองค์ทรงตั้งพระทัยแน่วไปยังกรุงเยรูซาเล็ม” (ลก.9:51
) ลูกาน่าจะกำลังคิดถึงอิสยาห์บทที่ห้าสิบข้อเจ็ด
“...ข้าพเจ้าจึงตั้งหน้าของข้าพเจ้าอย่างหินเหล็กไฟ...”
เปาโลก็น่าจะได้รับการหนุนใจจากอิสยาห์บทที่ห้าสิบข้อเจ็ดถึงเก้านี้เช่นกัน
เมื่อบันทึกในโรมที่ว่า “ และบรรดาผู้ที่พระองค์ได้ทรงตั้งไว้นั้น
พระองค์ได้ทรงเรียกมาด้วย และผู้ที่พระองค์ได้ทรงเรียกมานั้น พระองค์ทรงโปรดให้เป็นผู้ชอบธรรม
และผู้ที่พระองค์ทรงโปรดให้เป็นผู้ชอบธรรม พระองค์ก็ทรงโปรดให้มีศักดิ์ศรีด้วย 31
ถ้าเช่นนั้น เราจะว่าอย่างไร ถ้าพระเจ้าทรงอยู่ฝ่ายเรา ใครจะขัดขวางเรา 32
พระองค์ผู้มิได้ทรงหวงพระบุตรองค์เดียวของพระองค์
แต่ได้ทรงโปรดประทานพระบุตรนั้นเพื่อประโยชน์แก่เรา
ถ้าเช่นนั้นพระองค์จะไม่ทรงโปรดประทานสิ่งสารพัดให้เราทั้งหลาย
ด้วยกันกับพระบุตรนั้นหรือ 33 ใครจะฟ้องคนเหล่านั้นที่พระเจ้าได้ทรงเลือกไว้
พระเจ้าทรงโปรดให้พ้นโทษแล้ว 34 ใครเล่าจะเป็นผู้ปรับโทษอีก พระเยซูคริสต์น่ะหรือ
ผู้ทรงสิ้นพระชนม์แล้ว และยิ่งกว่านั้นอีกได้ทรงถูกชุบให้เป็นขึ้นมาจากความตาย
ทรงสถิต ณ เบื้องขวาพระหัตถ์ของพระเจ้า และทรงอธิษฐานขอเพื่อเราทั้งหลายด้วย 35
แล้วใครจะให้เราทั้งหลาย ขาดจากความรักของพระคริสต์ได้เล่า จะเป็นความทุกข์
หรือความยากลำบาก หรือการเคี่ยวเข็ญ หรือการกันดารอาหาร หรือการเปลือยกาย
หรือการถูกโพยภัย หรือการถูกคมดาบหรือ 36 ตามที่เขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่า
เพราะเห็นแก่พระองค์ ข้าพระองค์จึงถูกประหารวันยังค่ำ
และนับว่าเป็นแกะสำหรับจะเอาไปฆ่า 37 แต่ว่าในเหตุการณ์ทั้งปวงเหล่านี้
เรามีชัยเหลือล้น โดยพระองค์ผู้ได้ทรงรักเราทั้งหลาย 38 เพราะข้าพเจ้าเชื่อมั่นว่า แม้ความตาย
หรือชีวิต หรือบรรดาทูตสวรรค์ หรือเทพเจ้า หรือสิ่งซึ่งมีอยู่ในปัจจุบันนี้
หรือสิ่งซึ่งจะมีในภายหน้า หรือฤทธิ์เดชทั้งหลาย 39 หรือซึ่งสูง หรือซึ่งลึก
หรือสิ่งใดๆ อื่นที่ได้ทรงสร้างแล้วนั้น จะไม่สามารถกระทำให้เราทั้งหลาย
ขาดจากความรักของพระเจ้า ซึ่งมีอยู่ในพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเราได้ ”
(รม.30-39)
จะเห็นได้ว่าวิธีการเขียนเป็นไปในแนวเดียวกันกับอิสยาห์คือ
เป็นการพูดถึงความเข้มแข็งภายในโดยใช้วิธีตั้งคำถามว่า “
ถ้าพระเจ้าทรงอยู่ฝ่ายเราใครจะขัดขวางเราได้ ” คริสเตียนทุกยุคทุกสมัยมั่นใจ ยืนหยัด
ยอมเสี่ยงเพื่อความเชื่อของตนเอง เพราะแน่ใจว่าการกระทำเช่นนั้นเป็นพระประสงค์ของพระเจ้า
“
เชื่อวางใจในพระเจ้าทั้งวันนี้และวันพรุ่งนี้ ” ...พระเจ้าทรงสัญญาแก่เราทุกคนที่รูสึกอ่อนแอว่า“ ความอ่อนแอมีที่ไหน เดชของเราก็มีฤทธิ์ขึ้นเต็มขนาดที่นั้น...
” (2คร.12:9) พวกเรามีพระบิดาเจ้าผู้สถิตอยู่กับเราเสมอ
พระองค์จะประทานกำลังอย่างเพียงพอให้แก่เราในการอดทนต่อความทุกข์ยากลำบาก
ความสามารถของเราจะมากหรือน้อยในการอดทน จึงไม่เป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะเราจะได้รับการหนุนจิตชูใจจากพระคำขององค์พระผู้เป็นเจ้า
พวกเราต้องฝึกฝนการวางใจ ในพระสัญญาของพระเจ้าตั้งแต่วันนี้ โดยนึกถึงพระสัญญาของพระองค์เสมอ
พระองค์ตรัสว่า
- “...เราจะไม่ละท่าน หรือทอดทิ้งท่านเลย ” (ฮบ.13:5)
- “ อย่ากลัวเลย เพราะเราอยู่กับเจ้า อย่าขยาด เพราะเรา
เป็นพระเจ้าของเจ้า เราจะหนุนกำลังเจ้า เออ เราจะช่วยเจ้า
เออ เราจะชูเจ้าด้วยมือขวาอันมีชัยของเรา ” (อสย.41:10)
เพราะฉะนั้นอย่าย่อท้อต่อ“การฝึกพูด
การฝึกฟัง และการฝึกทนทุกข์(อดทน)”เพื่อหล่อหลอมเป็นผู้รับใช้
“””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น