พระธรรมโยชูวา เป็นหนังสือเล่มที่ 6
ในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิม
และเป็นบันทึกถึงประวัติศาสตร์อิสราเอลในช่วงอายุของโยชูวา
ซึ่งรับบทบาทเป็นผู้นำอิสราเอลต่อจากโมเสส กล่าวถึงการยึดครองแผ่นดินคานาอัน
อันเป็นแผ่นดินพันธสัญญาที่พระเจ้าทรงประทานให้แก่อับราฮัม การแบ่งดินแดนคานาอัน
ตามที่โมเสสได้บัญชาไว้ และสิ้นสุดเมื่อโยชูวาเสียชีวิต เชื่อกันว่า
"โยชูวา" เป็นผู้เขียนหนังสือเล่มนี้ด้วยตัวของท่านเอง ยกเว้นในบทสุดท้ายที่กล่าวถึงมรณกรรมของโยชูวา
และเอเลอาซาร์ น่าจะถูกบันทึกโดยบุตรชายของเอเลอาซาร์
หลักคำสอนสำคัญ
1.
พระเจ้าทรงสัตย์ซื่อ ยชว.1:6-9 จงเข้มแข็งและกล้าหาญเถิด
เพราะเจ้าจะทำให้ชนชาตินี้ได้รับแผ่นดินนั้นเป็นมรดก
ซึ่งเราปฏิญาณไว้กับบรรพบุรุษของพวกเขาว่าจะยกให้เขา 7เพียงแต่จงเข้มแข็งและกล้าหาญยิ่งเถิด
ระวังที่จะทำตามธรรมบัญญัติทั้งหมด ซึ่งโมเสสผู้รับใช้ของเราได้บัญชาเจ้าไว้นั้น
อย่าหันเหจากธรรมบัญญัตินั้นไปทางขวาหรือทางซ้าย
เพื่อเจ้าจะได้รับความสำเร็จอย่างดีในทุกแห่งที่เจ้าไป 8อย่าให้หนังสือธรรมบัญญัตินี้ห่างจากปากของเจ้า
แต่จงตรึกตรองตามนั้นทั้งกลางวันและกลางคืน
เพื่อเจ้าจะได้ระวังที่จะทำตามข้อความทุกประการที่เขียนไว้นั้น
แล้วเจ้าจะมีความเจริญ และประสบความสำเร็จ 9เราสั่งเจ้าแล้วไม่ใช่หรือว่าจงเข้มแข็งและกล้าหาญเถิด
อย่าครั่นคร้ามหรือตกใจเลย เพราะว่าพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้าสถิตกับเจ้า
ทุกแห่งที่เจ้าไป”
“จงเข้มแข็งและกล้าหาญเถิด” คำกำชับนี้ หมายถึง
พละกำลังด้านจิตใจ จิตวิญญาณ ความคิดและอารมณ์ แม้ว่าพระเจ้าประทานพละกำลังอย่างแน่นอน
แต่ตรงนี้พระองค์ทรงสั่งผู้นำของพระองค์ให้เป็นคนเข้มแข็ง แทนที่จะดำเนินในเส้นทางที่เจอกับการต่อต้านน้อยที่สุด
พระเจ้ากลับส่งโยชวาให้เข้มแข็งและกล้าหาญ ความกล้าหาญไม่ใช่การไปโดยปราศจากความกลัว
แต่มันคือการไปเผชิญหน้ากับความกลัว มันคือความแข็งแกร่งแห่งอุปนิสัยและความเป็นผู้
ใหญ่ฝ่ายจิตวิญญาณ เหตุที่พระเจ้าตรัสสั่งยูวาแบบนี้ก็เพราะพระองค์
มีพระสัญญากับแผ่นดินนี้ไว้แล้ว โยชูวาต้องมีกำลัง
และความเข้มแข็งเพราะสงครามที่จะเกิดขึ้น
เป็นสงความที่ยิ่งใหญ่มากดังนั้นยโยชูวาจะต้องได้รับการหนุนใจอย่างมาก
องค์พระผู้เป็นเจ้าหนุนใจโยชูวาว่าเขาจะประสบความสำเร็จ
และนำชนชาติอิสราเอลให้เข้าครอบครองดินแดนคานาอันได้
เพราะพระองค์ได้ทรงสัญญาไว้กลับบรรพบุรุษของพวกเขา คือ อับราฮัม อิสอัค และยาโคบ
ว่าจะยกดินแดนนี้เป็นมรดกชั่วนิรันดร์
ความสำเร็จของโยชูวาจะเกิดขึ้นได้ปัจจัยสำคัญก็คือการเชื่อฟังองค์พระผู้เป็นเจ้า
พระเจ้าทรงสัตย์ซื่อเสมอในการทำให้พระสัญญาของพระองค์ที่มีต่อมนุษย์สำเร็จ
2.
ความยำเกรงพระเจ้า ยชว.24:14-15
“ฉะนั้น
จงยำเกรงพระยาห์เวห์และปรนนิบัติพระองค์ด้วยความจริงใจและด้วยความซื่อสัตย์ จงทิ้งพระเหล่านั้นซึ่งบรรพบุรุษของท่านปรนนิบัติที่ฟากตะวันออกของแม่น้ำและในอียิปต์เสีย
จงปรนนิบัติพระยาห์เวห์ 15และถ้าพวกท่านไม่เห็นด้วยที่จะปรนนิบัติพระยาห์เวห์
ท่านก็จงเลือกเสียในวันนี้ว่าท่านจะปรนนิบัติใคร
จะปรนนิบัติบรรดาพระซึ่งบรรพบุรุษของท่านปรนนิบัติอยู่ในท้องถิ่นฟากตะวันออกของแม่น้ำ
หรือบรรดาพระของคนอาโมไรต์ในแผ่นดินซึ่งท่านอาศัยอยู่
แต่ส่วนข้าพเจ้าและครอบครัวของข้าพเจ้า เราจะปรนนิบัติพระยาห์เวห์”
โยชวาจึงกำชับคนอิสราเอลอย่างเข้มงวดว่า “เหตุฉะนั้น
บัดนี้จงยำเกรงพระยาห์เวห์และปรนนิบัติพระองค์ด้วยความจริงใจและด้วยความจริง”
คำกำชับนั้นยังมีผลจนถึงวันนี้ ความหมายก็คือ การปรนนิบัติองค์พระผู้เป็นเจ้าหมดทั้งตัว
นั้นคือ อย่างสุดจิตสุดใจของพวกเขา นอกจากนี้พวกเขาจะต้องทำเช่นนั้น “ด้วยความจริง” โยชวาจึงเตือนสติคนอิสราเอลให้ทิ้งพระเหล่านั้นที่พวกเขาเคยปรนนิบัติในอียิปต์เสีย
ชนชาติอื่นๆ ที่อยู่ล้อมรอบอิสราเอล
มักมีสนธิสัญญากับประเทศเมืองขึ้นของเขาว่าเมืองนั้นต้องตัดความสัมพันธ์กับเมืองอื่นๆ
ดังนั้นด้วยวิธีการเดียวกันนี้ อิสราเอลก็ต้องควรปฏิเสธพระอื่นๆ ทั้งสิ้นด้วย โยชูวาท้าทายอิสราเอลว่าพวกเขาต้องเลือกว่าจะนมัสการพระเจ้าของเมืองเออร์ซึ่งบรรพบุรุษของพวกเขากราบไหว้
หรือพระต่างๆ ของชาวอาโมไรค์ในคานาอัน หรือว่าจะนมัสการพระยาห์เวห์
แต่สำหรับโยชูวาและครอบครัวได้ตั้งใจอย่างแน่วแน่ว่าจะนมัสการพระยาห์เวห์ พระเจ้านั้นพร้อมและประสงค์จะอวยพรต่อคนที่สัตย์ซื่อต่อพระองค์
และต่อน้ำพระทัยของพรองค์สำหรับชีวิตของเขา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น