วันอาทิตย์ที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2560

ก้าวใหม่...ด้วยใจที่เข้มแข็ง(ตอนแรก)


 แต่พระองค์ก็ได้ทรงประทานพระคุณเพิ่มขึ้นอีก 
เหตุฉะนั้นพระคัมภีร์จึงกล่าวว่า
พระเจ้าทรงต่อสู้ผู้ที่หยิ่งจองหอง 
แต่ทรงประทานพระคุณแก่คนที่ใจถ่อม
(ยก.4:6)

          เมื่อปีใหม่ มาถึง เราก็ไม่ควรคาดหวังเพียงแค่ ความสนุกสนานรื่นเริงหรือการได้บริโภคสิ่งใหม่ๆ แต่ควรเป็นโอกาสสำหรับ การมอบสิ่งใหม่ให้แก่จิตวิญญาณ รวมทั้งการเร่งทบทวนตนเองที่เคย ผัดวัน    ประกันพรุ่ง เพราะสิ่งเหล่านี้ต่างหาก ที่จะทำให้เรามีชีวิตใหม่อย่างแท้จริง ถือเป็นจังหวะของชีวิตของเราด้วยเช่นกัน มันเป็นจุดตัดสินใจโดยใช้ความคิดของเรา เอาชนะใจของตนเองให้ได้ มันเป็นความกล้าหาญที่จะลุกขึ้นมาจากที่เดิม เพื่อมุ่งเดินไปตามทางแห่งชีวิต มันเป็นการขวนขวายที่จะไม่ทำตามความสบายของใจ และหันกลับมาสร้างวินัยแห่งชีวิตเพื่อให้หันเดินไปในทิศทางที่ถูกต้อง ไม่มีคำว่าสายกับการเปลี่ยนแปลงนี้ ทุกอย่างเริ่มต้นได้เสมอ ๆ เริ่มต้นเปลี่ยนแปลงในสิ่งเล็ก ๆ น้อยๆ ก่อนจนชำนาญ จนกว่าจะมั่นใจในชัยชนะเล็ก ๆ น้อย ๆ นี้ แล้วเริ่มทำสิ่งที่ใหญ่ขึ้น ยากขึ้นไปตามลำดับ
          ก่อนที่เราจะก้าวเข้าสู่ชีวิตในปีต่อไป น่าจะหันกลับมองการดำเนินชีวิตสาวกของเรา ว่าเป็นอย่างไรบ้าง เราได้มอบชีวิตนี้เพื่อการรับใช้พระเจ้ามากน้อยแค่ไหน เราส่วนใหญ่มักจะรู้สึกว่าเรายังไม่ดีพอ และยังไม่พร้อมจนกระทั้งคิดว่า เรายังไม่มีคุณสมบัติเพียงพอ เราอาจจะคิดว่า “ฉันไม่มีอะไรดีที่จะให้ชีวิตของฉันเอง ยังสับสนและยุ่งเหยิงอยู่เลย ชีวิตแต่งงานก็กำลังมีปัญหา ฉันวิตกกังวลกับลูกๆ การเงินก็ยังชักหน้าไม่ถึงหลัง  ฉันต้องเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ เพื่อไม่ให้ถูกไล่ออก ความสัมพันธ์ของฉันกับพระคริสต์ก็ไม่ดีเท่าที่ควรดูเหมือนฉันไม่เคยได้รับการเปลี่ยนแปลงชีวิตจากพระองค์ ฉันมีอะไรดีพอที่จะให้กับคนอื่นได้บ้างล่ะ แค่นี้ฉันก็ยุ่งมากเกินกว่าที่จะมีเวลาคิดถึงสิ่งอื่นๆ อีกแล้ว” แล้วเราจะเติบโตฝ่ายจิตวิญญาณได้อย่างไรเล่า ในฟีลิปปี บทที่ สอง ข้อ หนึ่งถึงสี่ หากเรานำมาศึกษาใคร่ครวญ และปฏิบัติตาม จะหนุนจิตชูใจเรามีชีวิตที่ เติบโต เข้มแข็ง และเกิดผล ในทางของพระคริสต์ได้ “เหตุฉะนั้น ถ้าชีวิตในพระคริสต์อำนวยการเร้าใจประการใด ถ้ามีการหนุนใจประการใดในความรัก ถ้ามีส่วนประการใดกับพระวิญญาณ ถ้ามีการรักใคร่เอ็นดู และเห็นอกเห็นใจประการใด ก็ขอให้ท่านทำให้ความยินดีของข้าพเจ้าเต็มเปี่ยม ด้วยการมีความคิดอย่างเดียวกัน มีความรักอย่างเดียวกัน มีใจรู้สึก และคิดพร้อมเพรียงกัน 3อย่าทำสิ่งใดในทางชิงดีกัน หรือถือดี แต่จงมีใจถ่อมถือว่าคนอื่นดีกว่าตัว 4อย่าให้ต่างคนต่างเห็นแก่ประโยชน์ของตนฝ่ายเดียว แต่จงเห็นแก่ประโยชน์ของคนอื่นๆ ด้วย”(ฟป.2:1-4)
  
          1. ให้พระคริสต์เป็นศูนย์กลาง “...ชีวิตในพระคริสต์อำนวยการเร้าใจ...”
                   “พี่น้องทั้งหลาย ด้วยเหตุนี้ โดยเห็นแก่ความเมตตากรุณาของพระเจ้า ข้าพเจ้าจึงวิงวอนท่านทั้งหลายให้ถวายตัวของท่านแด่พระองค์ เพื่อเป็นเครื่องบูชาที่มีชีวิตอันบริสุทธิ์ และเป็นที่พอพระทัยพระเจ้า ซึ่งเป็นการนมัสการโดยวิญญาณจิตของท่านทั้งหลาย 2อย่าประพฤติตามอย่างคนในยุคนี้ แต่จงรับการเปลี่ยนแปลงจิตใจ แล้วอุปนิสัยของท่านจึงจะเปลี่ยนใหม่ เพื่อท่านจะได้ทราบน้ำพระทัยของพระเจ้า จะได้รู้ว่าอะไรดี อะไรเป็นที่ชอบพระทัย และอะไรดียอดเยี่ยม”(รม.12:1-2) สิ่งแรก ที่เราต้องกระทำเพื่อให้พระคริสต์เป็นศูนย์กลางคือ “การถวายตัว” เปาโลใช้คำว่า วิงวอน เป็นการขอร้องและเห็นเรื่องนี้ เป็นเรื่องที่สำคัญจริงจัง เพราะรู้ซึ้งถึงพระคุณ พระเมตตาของพระเจ้าอันหาที่สุดไม่ได้ ดังนั้นเราจึงต้องกตัญญูต่อพระเจ้า มีท่าทีที่ถูกต้องในการตอบสนองพระคุณนี้ “ข้าพเจ้าจึงวิงวอนท่านถวายตัว เป็นเครื่องบูชาที่มีชีวิตอันบริสุทธิ์” เราต้องตั้งใจแน่วแน่ที่จะทำให้พระเจ้าทรงพอพระทัยใน ความรัก การอุทิศตน การสรรเสริญ และความบริสุทธิ์ และถวายร่างกายของตนเพื่อการปรนิบัติพระองค์ ในเลวีนิติเครื่องบูชาที่นำมาถวายเพื่อไถ่บาปต้องไม่มีตำหนิคัดอย่างพิถีพิถัน เครื่องบูชาในเลวีนิติเป็นเครื่องบูชาที่ไม่มีชีวิต และสัตว์ แต่เครื่องบูชาที่ เปาโลวิงวอนให้เราทั้งหลาย ถวาย คือ ชีวิตของเราที่ยังมีชีวิตอยู่ และมีชีวิตที่บริสุทธิ์ เป็นร่างกายอย่างกายที่ตายต่อบาป และอย่างกายที่เป็นวิหารของพระวิญญาณบริสุทธิ์แด่พระเจ้า ให้พระองค์ครอบครองทั้งหมด สิ่งที่สองคือ “รับการเปลี่ยนแปลง” เปาโลเตือนเราทั้งหลายว่า ...อย่าประพฤติตาม อย่างคนในยุคนี้... (2ทธ.3:2-5) มนุษย์ยุคนี้ จะเห็นแก่ตัว รักตนเอง , รักเงิน , ไม่รักพระเจ้า , รักความสนุกสนาน ถือศาสนาแต่เปลือกนอก เราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตของเราเองได้ ต้องรับการเปลี่ยนแปลงและขอกำลังจากพระเจ้า ต้องอยู่เพื่อพระเจ้า นมัสการพระองค์ เชื่อฟังพระองค์ อยู่ข้างพระองค์ในการต่อต้านบาป และอยู่ข้างความชอบธรรม ต่อสู้ และเกลียดชังความชั่ว กระทำกิจแห่งความเมตตาต่อผู้อื่น เลียนแบบพระคริสต์ติดตามพระองค์ เราต้องเปลี่ยนแปลงความคิดให้สอดคล้องกับความคิดของพระเจ้า(สดด.119:11 ข้าพระองค์ได้สะสมพระดำรัสของพระองค์ ไว้ในใจของข้าพระองค์ เพื่อข้าพระองค์จะไม่ทำบาปต่อพระองค์)

อ่านบทความอื่นๆ ต่อได้ที่  http://theword-2015.blogspot.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น