บางครั้งการทดสอบความเชื่ออาจมีประโยชน์
เพราะเป็นโอกาสที่จะสังเกตสภาพหัวใจเรา “ดูก่อน พี่น้องของข้าพเจ้า
เมื่อท่านทั้งหลายประสบความทุกข์ยากลำบากต่างๆ ก็จงถือว่าเป็นเรื่องน่ายินดี
3เพราะท่านทั้งหลายรู้ว่า การทดลองความเชื่อของท่านนั้น
ทำให้เกิดความหนักแน่นมั่นคง 4และจงให้ความมั่นคงนั้นบรรลุผลอันสมบูรณ์
เพื่อท่านทั้งหลายจะได้เป็นคนที่ดีพร้อม มีคุณสมบัติครบถ้วน ไม่มีสิ่งใดบกพร่องเลย”
(ยก.1:2-4) เส้นทางชีวิตปกติมักเต็มไปด้วยการทดสอบและการทดลอง
ซึ่งบางคนอาจแยกไม่ได้ว่าต่างกันอย่างไร การทดสอบ(การพิสูจน์)พระเจ้าทรงทำการทดสอบคริสเตียน
เพื่อให้เกิดความหนักแน่น เข้มแข็งขึ้นในฝ่ายจิตวิญญาณ ตัวอย่าง เช่น ความเจ็บป่วย
ความผิดหวังเสียใจ ความทุกข์ทรมานใจ และความตายตามธรรมชาติ ส่วนการทดลอง(การล่อลวง)คือทุกสิ่งที่เย้ายวนใจจนนำเราไปสู่การทำความบาป
การทดลองมาจากซาตาน เมื่อซาตานล่อลวงเราจงอย่าพูดว่าซาตานทดสอบเรา
ซาตานไม่ตั้งใจจะทดสอบเราแม้แต่น้อย ความตั้งใจทั้งหมดของซาตานคือ ทำให้เราหลงผิด
อ่อนแอ และพลาดล้มลงในความผิดบาป ดังนั้นเพื่อเป็นการถวายเกียรติแด่พระเจ้า
เราจงอย่าหลงกลของซาตานเป็นอันขาด
บางครั้งความทุกข์ยากลำบากเกิดขึ้นแล้วก็ผ่านพ้นไป
ตามครรลองของชีวิต เช่น การเผชิญหน้ากับคนที่ไม่ถูกโฉลก หรือเผชิญความยากลำบากในที่ทำงาน
เป็นต้น ความทุกข์ยากอาจจะอยู่ล้อมรอบตัวเราในปัจจุบัน
และในอนาคตข้างหน้าเป็นความทุกข์ยากที่ต้องเผชิญเป็นระยะยาวนาน เช่น อาการป่วยเรื้อรัง
ชีวิตสมรสที่มีปัญหา เป็นต้น
ในบางครั้งความทุกข์ยากลำบากดูเหมือนจะเพิ่มความรุนแรงขึ้นเป็นทวีคูณ
โดยที่เราไม่เข้าใจว่าทำไหมพระเจ้าจึงทรงอนุญาตให้เกิดขึ้น เราได้แต่ร้องทูลว่า “พอแล้วพระองค์เจ้าข้า
ลูกรับอีกไม่ไหวแล้ว” ความอดทนแถบจะขาดสะบั้น พระเจ้าไม่ตอบคำอธิษฐานเสียที
ทั้งๆ ที่เรารอคำตอบมาเป็นเวลายาวนานแล้ว “ชีวิตเหมือนจะหยุดนิ่งอยู่กับที่”
แต่จริงๆ แล้วพระเจ้ากำลังเล็งอะไรบางอย่างในชีวิตของเรา แต่เราไม่อาจทราบได้ “เพราะอับราฮัมมีความเชื่อ
ฉะนั้นเมื่อท่านถูกลองใจ ท่านจึงได้ถวายอิสอัคเป็นเครื่องบูชา
และท่านซึ่งเป็นผู้ได้รับพระสัญญา ก็ได้พร้อมแล้วที่จะถวายบุตรคนเดียวของท่าน”
(ฮบ.11:17) อับราฮัมเองก็ได้รับการทดสอบความเชื่อจากพระเจ้า ซึ่งในที่สุด
พระเจ้าก็ทรงจัดเตรียมลูกแกะไว้ให้ฆ่าแทนอิสอัค พระองค์ไม่ทรงโปรดให้อับราฮัมทำบาป
โดยการฆ่าลูกชายของตนเอง เพราะนั่นเป็นการทำผิดพระบัญญัติของพระองค์ คือ “อย่าฆ่าคน”
(อพย.20:13)
ในการทดสอบมีความน่ายินดี “เพราะท่านทั้งหลายรู้ว่า
การทดลองความเชื่อของท่านนั้น ทำให้เกิดความหนักแน่นมั่นคง
4และจงให้ความมั่นคงนั้นบรรลุผลอันสมบูรณ์ เพื่อท่านทั้งหลายจะได้เป็นคนที่ดีพร้อม
มีคุณสมบัติครบถ้วน ไม่มีสิ่งใดบกพร่องเลย”
(ยก.1:3-4) ยากอบถือว่าการทดสอบที่เกิดขึ้นในชีวิตเป็นสิ่งที่ดี
เพราะ “การทดลองความเชื่อ”
ทำให้เกิด “ความหนักแน่นมั่นคง” พระเจ้าลองใจเรา เพื่อให้เรารู้จักตัวเอง
เพื่อประโยชน์ของเรา มากไปกว่านั้น พระเจ้าจัดสถานการณ์ต่างๆได้อย่างพอเหมาะกับเรา
ซึ่งมันไม่มีมนุษย์หน้าไหนทำได้เช่นพระองค์ เชื่อว่า การทดลองของพระเจ้าจึงไม่ใช่เรื่องของการสอบผ่านหรือสอบตก
แต่เป็นเรื่องของการรู้จักตัวเอง(รู้ความในใจของตน) ยอมรับตัวเอง
และรับการฝึกฝนชีวิต เพื่อเราจะได้แข็งแรงและมั่นคงขึ้นในพระคุณของพระเจ้า
ในพระธรรมโรมเปาโลก็ได้รับการดลใจจากพระเจ้าบันทึกข้อความเหมือนกันว่า “ยิ่งกว่านั้น
เรา (หรือ ให้เรา) ชื่นชมยินดีในความทุกข์ยากของเราด้วย
เพราะเรารู้ว่าความทุกข์ยากนั้น ทำให้เกิดความอดทน 4และความอดทนทำให้เห็นว่า
เราเป็นคนที่พระเจ้าทรงใช้ได้ และการที่เราเห็นเช่นนั้น ทำให้เกิดมีความหวังใจ 5และความหวังใจมิได้ทำให้เกิดความเสียใจเพราะผิดหวัง
เพราะเหตุว่าความรักของพระเจ้า ได้หลั่งเข้าสู่จิตใจของเรา
โดยทางพระวิญญาณบริสุทธิ์ ซึ่งพระองค์ได้ประทานให้แก่เราแล้ว” (รม.5:3-5) คนที่พบ “การทดสอบ” พบความทุกข์ยาก จะต้องอดทนโดยการพึ่งพระเจ้า
เมื่อเราทนได้ เราจะหนักแน่นมั่นคงขึ้น แกร่งขึ้น เข้มแข็งขึ้น
การผ่านร้อนผ่านหนาวมา เมื่อเราเชื่อพระเจ้าและยืนหยัดเอาชนะได้
จะทำให้เรามีกำลังทวีขึ้น ความผิดพลาดล้มเหลว มันเป็นเรื่องปกติของชีวิต พระเจ้าทรงครอบครองและควบคุมอยู่
ไม่ใช่ตัวเราแผนการณ์และความคิดอาจจะเป็นของเรา
แต่คำตอบมาจากพระเจ้า ไม่ต้องกลัวว่าจะผิดพลาด จงกล้าหาญที่จะยอมรับความล้มเหลว เพราะพระเจ้าทรงใช้ทุกอย่างร่วมกันเพื่อเป็นผลดีแก่เรา
พระเจ้าผู้ทรงเฝ้าระวังชีวิตของเราอยู่ไม่เคยหลับ พระองค์พร้อมช่วยเราเสมอ พระเจ้าทรงอยู่ใกล้แค่คืบ
พระเจ้าทรงใส่ใจเรา เส้นผมเราทุกเส้นก็ทรงนับไว้แล้ว พระองค์เป็นพระเจ้าของคนเป็น มิใช่คนตาย
พระเจ้าทรงประทานพระวิญญาณบริสุทธิ์เป็นผู้ช่วยเรา พระเจ้าไม่ได้มาเพื่อช่วยคนที่แข็งแรงดี
แต่พระองค์มาแสวงหาคนที่บาดเจ็บฟกช้ำ เพื่อช่วยให้เขาหายดี... องค์พระเยซูคริสต์ตรัสว่า
“เหตุฉะนั้น ท่านทั้งหลายจงเป็นคนดีรอบคอบ เหมือนอย่างพระบิดาของท่าน
ผู้ทรงสถิตในสวรรค์ เป็นผู้ดีรอบคอบ” (มธ.5:48) ดังนั้นยากอบ จึงย้ำว่าคนที่ผ่านพ้นความทุกข์ยากมา
ดูแลระวังระไวใจตน จึงเป็นคนดีพร้อม
ครบถ้วนสมบูรณ์ และคนเช่นนี้ เปาโล เชื่อว่า “...เป็นคนที่พระเจ้าทรงใช้ได้...”
(รม.5:4)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น