ผูกพันฉันท์พี่น้อง(ตอนสอง)
พี่น้อง...ในพระคำตอนนี้
อาจเกิดเรื่องยุ่งยากขึ้นระหว่าง นางยูโอเดีย กับนางสินทิเค พระคัมภีร์ไม่ได้บอกว่าเรื่องอะไร
บางที่อาจจะอิจฉากันด้วยเหตุใดเหตุหนึ่ง แต่เมื่ออ่านจากพระคำแล้ว หญิงทั้งสองน่าจะเป็นคนดี
และเป็นคริสเตียนมานามพอสมควรจนเคยร่วมงานงานประกาศกับ อ.เปาโล ด้วยเหตุนี้
อ.เปาโลจำเขียนจดหมายของร้องให้พี่น้องคริสเตียนที่นั้นว่า “ให้ท่านช่วยผู้หญิงเหล่านั้น
เพราะว่าเขาได้ทำงานเพื่อข่าวประเสริฐ เคียงข้างกับข้าพเจ้า”
- กจ 15:37-41 ฝ่ายบารนาบัส
อยากจะพายอห์นผู้มีอีกชื่อหนึ่งว่ามาระโกไปด้วย
แต่เปาโลไม่เห็นควรที่จะพายอห์นไปด้วย เพราะครั้งก่อนยอห์นได้ละท่านทั้งสองเสียที่แคว้นปัมฟีเลีย
และมิได้ไปทำการด้วยกัน แล้วได้เกิดการขัดแย้งกันจนต้องแยกกัน
บารนาบัสจึงพามาระโกลงเรือไปยังเกาะไซปรัส แต่เปาโลได้เลือกสิลาส
และเมื่อพวกพี่น้องได้ฝากท่านทั้งสองไว้ในพระคุณของพระเจ้าแล้ว ท่านก็ไป
ท่านจึงไปตลอดแคว้นซีเรีย กับแคว้นซิลิเซียหนุนใจคริสตจักรให้แข็งแรงขึ้น
นี้เป็นอีกเหตุการณ์หนึ่งที่เกิดความยุ่งยาก
ระหว่างอ.เปาโล กับบารนาบัส
เมื่อท่านทั้งสองจะเดินทางออกไปเป็นมิชชันนารีครั้งที่สอง บารนาบัสต้องการพามาระโกผู้เป็นญาติของเขาไปด้วย
แต่อ.เปาโลไม่อยากให้มาระโกไป
เนื่องจากที่พวกเขาเดินทางเป็นมิชชันนารีครั้งแรกนั้น มาระโกได้ละทิ้งพวกเขาแล้วกลับบ้าน
พี่น้อง...ลองนึกดูน่าจะเป็นการโต้เถียงกันอย่างรุนแรง แน่นอน
- กท 2:11-14 แต่เมื่อเคฟาสมาถึงอันทิโอกแล้ว
ข้าพเจ้าก็ได้คัดค้านท่านซึ่งๆ หน้า
เพราะว่าท่านทำผิดแน่ ด้วยว่า ก่อนที่คนของยากอบมาถึงนั้น ท่านได้กินอยู่ด้วยกันกับคนต่างชาติ
แต่พอคนพวกนั้นมาถึง ท่านก็ปลีกตัวออกไปอยู่เสียต่างหาก เพราะกลัวพวกที่ถือพิธีเข้าสุหนัต
และพวกยิวคนอื่นๆ ก็ได้แสร้งทำตามท่าน แม้แต่บารนามัสก็หลงแสร้งทำตามคนเหล่านั้นไปด้วย
แต่เมื่อข้าพเจ้าเห็นว่า เขาไม่ได้ประพฤติตรงตามความจริงของข่าวประเสริฐนั้น ข้าพเจ้าจึงว่าแก่เคฟาสต่อหน้าคนทั้งปวงว่า
"ถ้าท่านเองซึ่งเป็นพวกยิว ประพฤติตามอย่างคนต่างชาติ ไม่ใช่ตามอย่างยิว
เหตุไฉนท่านจึงบังคับคนต่างชาติ ให้ประพฤติตามอย่างพวกยิวเล่า"
เหตุการณ์นี้
อ.เปโตรพลาดกระทำความผิด ท่านเลิกไม่คบหาใกล้ชิดกับคริสเตียนต่างชาติ
เนื่องจากกลัวว่าคริสเตียนยิว จะไม่พอใจท่าน เมื่ออ.เปาโลเห็นการกระทำดังกล่าว ท่านได้ตำหนิในการประพฤติที่ไม่เหมาะสมของอ.เปโตร
ต่อหน้าคนอื่นๆ
พี่น้อง...ครับ
“จงอุตส่าห์จนสุดกำลังที่จะ... ..เอาความรักฉันพี่น้องเพิ่มธรรม
และเอาความรักคนทั่วไปเพิ่มความรักฉันพี่น้อง”
-
2 ปต 1:5-7 เพราะเหตุนี้เอง ท่านจงอุตส่าห์จนสุดกำลังที่จะเอาคุณธรรมเพิ่มความเชื่อ เอาความรู้เพิ่มคุณธรรม
เอาความเหนี่ยวรั้งตนเพิ่มความรู้ เอาขันติเพิ่มความเหนี่ยวรั้งตน และเอาธรรมเพิ่มขันติ
เอาความรักฉันพี่น้องเพิ่มธรรม และเอาความรักคนทั่วไปเพิ่ม ความรักฉันพี่น้อง
อ.เปโตรอาจรู้สึกโกรธอ.เปาโลก็ได้
ท่านอาจจะรู้สำเจ็บแค้นที่อ.เปาโลได้ตำหนิท่านต่อหน้าคนอื่น แต่ท่านไม่ได้โกรธ อ.เปโตรเป็นคนถ่อมใจ
ท่านยอมรับที่จะแก้ไข และท่านไม่ปล่อยให้เรื่องนั้นเป็นเหตุให้ความรักที่ท่านมีต่อ
อ.เปาโลลดลง
- 1 ปต 3:8-9 ในที่สุดนี้
ท่านทั้งหลายจงเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน เห็นอกเห็นใจกัน รักกันฉัน
พี่น้อง มีจิตใจอ่อนโยน และอ่อนน้อม
อย่าทำการร้าย ตอบแทนการร้าย อย่าด่าตอบแทน
การด่า แต่ตรงกันข้ามจงอวยพรแก่เขา ด้วยว่าพระองค์ได้ทรงเรียกให้ท่านกระทำเช่นนั้น
เพื่อท่านจะได้รับพระพร
- 2 ปต 3:15 และจงถือว่า
การที่องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา ทรงอดกลั้น พระทัยไว้นานนั้น
เป็นการช่วยเราให้รอด ดังที่เปาโลน้องที่รักของเราได้เขียนจดหมายถึงท่านทั้งหลาย
ตาม สติปัญญาซึ่งพระองค์ได้ทรงโปรดประทานแก่เขานั้น
โดยที่ อ.เปโตรเป็นคนถ่อมใจ
และยอมรับที่จะแก้ไข พวกเราจะสังเกตได้ในการอ้างถึงอ.เปาโลในจดหมาย (2 ปต 3:15)
หนุนใจพี่น้องคริสเดียน สิ่งนี้แหล่ะเป็นการที่ยอมให้ความรักครอบคลุมความยุ่งยากของ
อ.เปโตร
สำหรับเรื่องของอ.เปาโล
และบารนาบัสนั้น ก็ได้รับการแก้ไขด้วยความรักเช่นกัน
- 1 คร 9:5-6
เราไม่มีสิทธิ์ที่จะพาพี่น้องซึ่งเป็นภรรยาไปไหนๆ ด้วยกันเหมือนอย่างพวก
อัครทูตอื่นๆ และน้องๆ
ขององค์พระผู้เป็นเจ้า และเคฟาสหรือ เฉพาะข้าพเจ้า และบารนามัส
เท่านั้นหรือ ที่ไม่มีสิทธิ์ที่จะเลิกทำงานหาเลี้ยงชีพ
เพราะต่อมาเมื่ออ.เปาโลเขียนจดหมายถึงพี่น้องคริสเตียนที่เมืองโครินธ์
ท่านพูดถึงบารนาบัส ว่าเป็นเพื่อนร่วมงานที่ใกล้ชิด
แม้ว่าอ.เปาโลจะมีเหตุผลที่ข้องใจใจคุณสมบัติของมาระโก
ในฐานะเป็นเพื่อนร่วมเดินทางก็ตาม แต่ภายหลังมาระโกคนนี้ก็เติบโต และเข้มแข็งขึ้น
จนอ.เปาโลสามารถเขียนจดหมายถึงทิโมธีว่า
“ลูกาคนเดียวเท่านั้นที่อยู่กับข้าพเจ้า
จงไปตามมาระโกและพาเขามาด้วยเพราะเขาช่วยปรนนิบัติ ข้าพเจ้าได้เป็นอย่างดี” (2 ทธ
4:11)
ด้วยความรัก ความบาดหมางหายไป
พี่น้อง...ครับ แล้วชีวิตของพวกเราล่ะเคยที่จะกระทำเช่นนี้ หรือเปล่า
ในกรณีของ
นางยูโอเดีย กับนางสินทิเค พระคัมถีร์ไม่ได้บอกว่าในที่สุดพวกเขาเป็นอย่างไร
แต่ถ้าเรามองตามสภาพแวดล้อมแล้ว
ทั้งสองคนนี้น่าจะเป็นผู้หญิงที่ประพฤติดีปฏิบัติชอบ ถึงได้ร่วมพันธกิจกับ
อ.เปาโล
เธอทั้งสองคงจะถอมใจยอมรับคำแนะนำนั้น ตามจดหมายที่อ.เปาโลเขียน
นี่เป็นการจัดการปัญหาด้วยน้ำใจที่เปี่ยมด้วยความรัก พวกเราก็เช่นกัน
อาจรู้สึกว่าการสร้างความสัมพันธ์กับใครสักคนในกลุ่มพี่น้อง
คริสเตียนไม่ใช่เรื่องง่าย
อ่านบทความอื่นๆได้ที่ http://theword-2015.blogspot.com/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น