สดด.3: 4-5 ข้าพระองค์ร้องทูลพระเจ้า
และพระองค์ตรัสตอบข้าพระองค์จากภูเขาอันบริสุทธิ์ของพระองค์ 5ข้าพเจ้า
{สรรพนามบุรุษที่หนึ่ง ใช้เมื่อพูดเรื่องพระเจ้า} นอนลงและหลับไป ข้าพเจ้ากลับตื่นขึ้น เพราะพระเจ้าทรงอุปถัมภ์ข้าพเจ้า
นอกจากกษัตริย์ดาวิดไม่กังวลต่อการไล่ล่าของอับซาโลมแล้ว
พระองค์ยังเชื่อมั่นว่าพระเจ้าจะตอบคำอธิษฐาน
พระเจ้าจะปกป้องพระองค์ทั้งกลางวันและกลางคืน คำอธิษฐานของพระองค์จะได้รับการตอบสนอง
พระเจ้าจะตอบคำอธิษฐานจาก “ภูเขาอันบริสุทธิ์” บางสำนวนจะใช้คำว่า “ศิโยน” ศิโยน เป็นชื่อเมืองป้องของชาวเยบุช
และเป็นชื่อเนินเขาที่ป้อมนั้นตั้งอยู่
เนินเขานั้นตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงเยรูซาเล็มใกล้หุบเขาขิดโรน พระองค์ยึดป้อมนี้ได้เมื่อรบชนะพวกเยบุช
และทรงเปลี่ยนชื่อเมืองป้อมศิโยนมาเป็นเมืองของดาวิด หรือนครดาวิด (2ซมอ.5:6-9)
พระองค์ยังได้นำหีบพันธสัญญาของพระเจ้าที่ถูกทอดทิ้งอยู่ที่บ้านของอาบีนาดับมาไว้ที่ศิโยน(2ซมอ.6:1-5,12) ดังนั้นจึงเป็นเรื่องธรรมดาพระองค์มั่นใจว่าจะได้รับการตอบสนองจากที่นั้น
2ซมอ.22:21-22 พระเจ้าทรงประทานรางวัลแก่ข้าพเจ้าตามความชอบธรรมของข้าพเจ้าพระองค์ทรงตอบข้าพเจ้าตามความสะอาดแห่งมือของข้าพเจ้า เพราะข้าพเจ้ารักษาบรรดาพระมรรคาของพระเจ้า
และไม่ได้พรากจากพระเจ้าของข้าพเจ้าอย่างอธรรม แม้ในยามค่ำคืนซึ่งมีโอกาสที่จะถูกจู่โจมมากที่สุด กษัตริย์ดาวิดก็ไม่กลัวที่จะเข้านอน
พระองค์มั่นใจว่าท่านจะตื่นขึ้นมาอีก เพราะประสบการณ์ที่พระองค์มีในอดีตทำให้ท่านมั่นใจอย่างเต็มที่ว่า
พระองค์สามารถวางใจ ว่าพระเจ้าจะช่วยอย่างแน่นอน พวกเราเองก็สามารถมั่นใจเช่นนั้นได้ถ้าพวกเรา
“ดำเนินชีวิตอยู่ในทางของ
พระเจ้า” เสมอ และไม่หันเหไปจากพระองค์
สดด.3: 6-8 ข้าพเจ้าไม่กลัวคนเป็นหมื่นๆ ซึ่งตั้งตนต่อสู้ข้าพเจ้าอยู่รอบด้าน
7ข้าแต่พระเจ้า โปรดทรงลุกขึ้น ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์โปรดทรงช่วยกู้ข้าพระองค์ขอพระองค์ทรงตบหน้าศัตรูทั้งหลายของข้าพระองค์
และทรงเลาะฟันของคนอธรรมทั้งปวง 8การช่วยกู้เป็นของพระเจ้า
ขอพระพรของพระองค์หลั่งลงเหนือประชากรของพระองค์เทอญ
แม้ว่ากษัตริย์ดาวิดถูกอับซาโลมทรยศ และคนอื่นๆ อีกหลายคนก็ไม่ภักดีต่อพระองค์
กษัตริย์ดาวิดได้รับความมั่นใจว่าพระเจ้า จะประทานชัยชนะเหนือศัตรูเป็นพันๆ
แก่พระองค์ “โปรดทรงช่วยกู้ข้าพระองค์ ขอพระองค์ทรงตบหน้าศัตรูทั้งหลายของข้าพระองค์
และทรงเลาะฟันของคนอธรรมทั้งปวง” การตบหน้าเป็นการดูถูกดูหมิ่น ศัตรูของคนของพระเจ้า
จะได้รับความอับอาย และไม่อาจพูดหรือทำสิ่งร้ายต่อไป
พวกศัตรูเป็นเหมือนสัตว์ร้ายที่ไม่มีเขี้ยวแล้ว ในข้อ7 นี้แสดงถึงความมั่นใจของกษัตริย์ดาวิดว่าพระเจ้าจะช่วยให้พระองค์พ้นจากศัตรูแน่นอน ฉธบ.32:35-36 การแก้แค้นและการตอบสนองเป็นของเรา รอเวลาเมื่อเท้าของเขาจะลื่นพลาด
เพราะว่าวันหายนะของเขามาใกล้แล้ว และกรรมจะมาถึงเขาโดยเร็วพลัน 36เพราะพระเจ้าจะทรงพิพากษาประชากรของพระองค์
และทรงเมตตาปรานีต่อผู้รับใช้ของพระองค์ เมื่อทอดพระเนตรกำลังของเขาสิ้นลง
ไม่มีใครเหลือแล้ว ไม่ว่าทาสหรือไท กษัตริย์ ดาวิดไม่ผูกพยาบาทต่อศัตรู พระองค์ตระหนักว่าพระเจ้าผู้เดียวเท่านั้นที่สามารถช่วยให้รอดได้
พระเจ้าจะไม่ละทิ้งผู้รับใช้ของพระองค์ เหล่าศัตรูจะได้รับการตอบโต้โดยองค์พระผู้เป็นเจ้าเอง
กษัตริย์ ดาวิดไม่ได้คิดถึงแต่ตัวเอง
แต่ท่านก็ยังระลึกถึงประชาชนของพระเจ้าโดยทั่วไป
และเชื่อมั่นว่าพระเจ้าจะทรงอวยพรพวกเขา พวกเราก็ควรระลึกถึงเพื่อนร่วมความเชื่อด้วย
ขอให้พวกเราระลึกถึงพวกเขาในคำอธิษฐานทูล ขอให้พระเจ้าประทานพระวิญญาณบริสุทธิ์แก่พวกเขาเพื่อพวกเขาจะรวบรวมความกล้าและประกาศข่าวประเสริฐด้วยความมั่นใจได้
จงเอาความรอดเป็นหมวกเหล็กป้องกันศีรษะ
และจงถือพระแสงของพระวิญญาณ
คือ พระวจนะของพระเจ้า จงอธิษฐานวิงวอนทุกอย่าง
จงขอโดยพระวิญญาณทุกเวลา
ทั้งนี้จงระวังตัวด้วยความเพียรทุกอย่าง
จงอธิษฐานเพื่อธรรมิกชนทุกคนและอธิษฐานเพื่อข้าพเจ้าด้วย
เพื่อจะทรงประทานให้ข้าพเจ้ามีคำพูดและเกิดใจกล้าประกาศและสำแดงข้อลับลึก
แห่งข่าวประเสริฐได้ เพราะข่าวประเสริฐนี้เองทำให้ข้าพเจ้าเป็นทูตผู้ต้องติดโซ่
อยู่เพื่อข้าพเจ้าจะเล่าข่าวประเสริฐด้วยใจกล้าตามที่ข้าพเจ้าควรจะกล่าว
อ่านบทความอื่นๆได้ที่ http://theword-2015.blogspot.com/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น