วันอาทิตย์ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2559

เผชิญความทุกข์ยาก (ตอนแรก)

สดด.50:15
“...จงร้องทูลเราใน  วันทุกข์ยากลำบาก     เราจะช่วยกู้เจ้า..."
.................................
            หลังจากเดินทางออกมาจากอียิปต์แล้ว ความเป็นจริงของชีวิตในทะเลทรายก็เผชิญหน้ากับอิสราเอล พวกเขาพบกับความยุ่งยากต่างๆ นานาระหว่างทางไปยังแผ่นดินที่ทรงสัญญาไว้ แม้กระนั้นพระเจ้าก็ยังทรงเลี้ยงดู และทรงช่วยให้พ้นจากความทุกข์ยากลำบาก เหตุการณ์ใน อพย.16:11-31 เป็นภาพการสำแดงของพระเจ้าเพื่อช่วยเหลือชนชาติอิสราเอล
            ข้อ 11-12 พระเจ้าตรัสกับโมเสสว่า "เราได้ยินคำบ่นของชนชาติอิสราเอลแล้ว จงกล่าวแก่เขาว่า 'ในเวลาโพล้เพล้ พวกเจ้าจะได้กินเนื้อ ทั้งในเวลาเช้า เจ้าจะได้อาหารกินจนอิ่ม แล้วเจ้าจะรู้ว่า เราคือพระเจ้าของพวกเจ้า'"
                        “คำบ่น” การบ่นเป็นอาการของการพูดชนิดหนึ่ง ซึ่งอาจมีลักษณะของการพูดในระดับเสียงตั้งแต่ค่อยที่สุดเหมือนกับพึมพำคนเดียวจนถึงระดับเสียงที่ดังฟังชัดเจนแล้วแต่อารมณ์และเจตนาของผู้บ่น การบ่นนั้นเป็นการพูดที่ดูเหมือนจะไม่ต้องมีการฝึกหัด หรือเรียนรู้อย่างเป็นทางการแต่อย่างใด เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้เองตามธรรมชาติ เมื่อคนมีประสบการณ์มากขึ้น ได้รับรู้สิ่งต่าง ๆ มากขึ้น และต้องรับผิดชอบเรื่อง ๆ มากขึ้น คนก็จะทำพฤติกรรมการบ่นได้เก่งขึ้นเองเป็นเงาตามตัว การบ่นเป็นคำที่มีความหมายในเชิงลบ จึงไม่มีใครต้องการที่จะมีความเก่งกาจในด้านการบ่น      
                        ชนชาติอิสราเอลเผชิญหน้ากับความเป็นจริงของชีวิตในทะเลทราย พวกเขาเริ่มบ่นต่อการดำเนินชีวิตแบบนั้น พวกเขาเผชิญต่อความขาดแคลน และความไม่สะดวกสบาย อิสราเอลบ่นอย่างข่มขื่นและอยากกลับไปอียิปต์ แต่พระเจ้าทรงจัดเตรียมสิ่งจำเป็นให้แก่พวกเขาแล้ว เหตุการณ์เหล่านี้นำไปสู่ความตรึงเครียด การบ่นเป็นเรื่องธรรมดา พวกเขาไม่ต้องการกลับไปอียิปต์จริงๆ เพียงแต่ต้องการชีวิตที่สะดวกสบายขึ้น ความเครียดทำให้ขาดความวางใจในพระเจ้าจึงแสดงอาการแบบนั้นออกมา  เมื่อพวกเราเครียดจงอย่าหลงกลลวงให้หนีปัญหาโดยเร็วด้วยการบ่น แต่จงจดจ่อที่ฤทธิ์อำนาจและสติปัญญาของพระเจ้าที่จะช่วยจัดการกับสาเหตุของความเครียด ด้วยพระเจ้าสถิตอยู่กับอิสราเอลพระองค์จึงตรัสกับโมเสส ว่าพระองค์ได้ยินเสียงบ่นของพวกเขา แล้วพระองค์ทรงบอกพวกเขา ว่า “ในเวลาเย็นจะได้รับประทานเนื้อ ในเวลาเช้าพวกเขาก็จะอิ่มด้วยอาหาร” องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเลี้ยงดูพวกเขา เพื่อสำแดงให้พวกเขารู้ว่า พระองค์เป็นพระเจ้าของพวกเขา
                        1คร.10:10 อย่าให้เราบ่นเหมือนอย่างที่บางคนในพวกเขาได้บ่น แล้วก็ต้องพินาศด้วยองค์เพชฌฆาต และ ฟป.2:14 จงทำสิ่งสารพัดโดยปราศจากการบ่นและการทุ่มเถียงกัน  พระคำเตือน เรื่อง “บ่น” องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสผ่านอ.เปาโล ให้เตือนสติเรื่องการบ่นแก่คริสเตียนเมืองโครินทร์ โดยยกเหตุการณ์ในพระคัมภีร์เดิมน่าจะเป็นเรื่องการกบฏของโคราห์ ดาธาร และอาบีรัน ในกันดารวิถีบทที่16 ในครั้งนั้นการบ่นเป็นการกบฏอย่างซึ่งๆ หน้าต่อผู้นำที่พระเจ้าทรงเจิมตั้งไว้ การลงโทษของพระเจ้าต่อโคราห์และคนเหล่านั้นที่กบฏร่วมกับเขารุนแรงมาก อ.เปาโลสื่ออย่างชัดเจนตรงใจบางคนที่มักกบฏ ในคริสตจักรเมืองโครินธ์  เหตุที่การบ่นว่าและทะเลาะเบาะแว้งเป็นอันตรายต่อคริสตจักรมาก เพราะถ้าคนอื่นรู้ว่าในคริสตจักรสมาชิกทะเลาะเบาะแว้งกัน บ่นว่ากัน และนินทาว่าร้ายกันตลอดเวลา สิ่งเหล่านี้จะทำให้พวกเขาเข้าใจเรื่อง ข่าวประเสริฐของพระเยซูคริสต์ ในทางที่ผิด ความเชื่อในองค์พระผู้เป็นเจ้าควรจะทำให้ผู้ที่วางใจในพระองค์เป็นหนึ่งเดียวกัน
                        “พระเจ้าของพวกเจ้า” สดุดีบทที่ 50 บรรยายถึงภาพของ พระเจ้าผู้ทรงครอบครองไว้ได้ชัดเจนมาก โดยสาระส่วนใหญ่เกี่ยวกับเรื่องราวของพระเจ้า ผู้ทรงครอบครองอยู่เหนืออิสราเอลและเหนือประชาชาติทั้งหลาย เพราะสิทธิอำนาจ ฤทธานุภาพ ความบริสุทธิ์และเที่ยงธรรมของพระองค์นั้นเอง พระองค์จะทรงอวยพระพรแก่คนชอบธรรม และจะทรงทำลายคนอธรรมเสีย หากดำเนินชีวิตเพียงแต่ท่องบทบัญญัติของพระเจ้า และแสดงความเชื่อต่อพระเจ้าแห่งพันธสัญญาเพียงแค่คำพูดเท่านั้น ไม่ได้ดำเนินชีวิตให้สอดคล้องกับบทบัญญัติและพันธสัญญา  ก็ไม่มีประโยชน์อะไรเพราะ พระเจ้าจะทรงรับการสรรเสริญ นมัสการ และคำอธิษฐานก็ต่อเมื่อพวกเราดำเนินชีวิต ด้วยการเชื่อฟังองค์พระองค์เท่านั้น
                        ฟป.2:15-16เพื่อท่านทั้งหลายจะไม่ถูกติเตียน และไม่มีความผิด เป็น บุตรที่ปราศจากตำหนิของพระเจ้า ในท่ามกลาง พงศ์พันธุ์ที่คดโกงและวิปลาส ท่านปรากฏในหมู่พวกเขาดุจดวงสว่างต่างๆในโลก 16จงยึดมั่นในพระวาทะแห่งชีวิต เพื่อข้าพเจ้าจะมีที่อวดในวันของพระคริสต์ว่า ข้าพเจ้าไม่ได้วิ่งเปล่าๆและไม่ได้ทำงานโดยเปล่าประโยชน์  “ท่านปรากฏในหมู่พวกเขาดุจดวงสว่างต่างๆในโลก”  ชีวิตของคริสเตียนควรสำแดงลักษณะ ที่ มีความบริสุทธิ์ทางศีลธรรม มีความอดทน และมีความสงบสุข เพื่อพวกเขาจะ ส่องสว่างดั่งดวงดาวในโลกที่มืดมน และเสื่อมทราม .....คุณกำลังส่องสว่างสดใสดีอยู่หรื๊อ?.......
อ่านบทความอื่นๆได้ที่ http://theword-2015.blogspot.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น