แม้ว่ามารซาตานจะเป็นผู้แพ้ก็ตาม
แต่มันไม่ปรารถนาที่จะพินาศเพียงผู้เดียว มันต้องการ
ที่จะล่อลวงมนุษย์ให้พินาศไปกับมันให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้
สำหรับอุบายที่มันใช้ในการล่อลวง
ก็มีมากมาย เป้าหมายของอุบายต่างๆนั้นก็เพื่อทำให้ชีวิตเราออกห่างจากองค์พระผู้เป็นเจ้า
ซาตานดำเนินงานของมันมาอย่างยาวนานพระคัมภีร์ได้บันทึกสอนไว้ทั้ง พันธสัญญาเดิม
และพันธสัญญาใหม่ มันใช้สามสิ่งในการล่อลวงมนุษย์
องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ตรัสสอนผ่าน อ.ยอห์น ก็คือ ตัณหาของเนื้อหนัง(กาย)
ตัณหาของตา และความทะนงในลาภยศ
ตัณหาเหตุการณ์ |
ตัณหาของเนื้อหนัง
|
ตัณหาของตา
|
ความทะนงในลาภยศ
|
พันธสัญญาเดิม
เอวา (ปฐก.๓:๑-๗)
|
"จริงหรือที่พระเจ้าตรัสห้ามว่า
'อย่ากินผลจากต้นไม้ใดๆ ในสวนนี้” (ข้อ ๑)
(อาหาร)
|
“เจ้ากินผลไม้นั้นวันใด
ตาของเจ้าจะสว่างขึ้นในวันนั้น” (ข้อ ๕) / “หญิงนั้นเห็นว่า ต้นไม้นั้นน่ากิน
และน่าดูด้วย” (ข้อ ๖)
|
“เจ้าจะเป็นเหมือน พระเจ้า” (ข้อ ๕)
|
พันธสัญญาใหม่
พระเยซูคริสต์
(ลก.๔:๑-๑๓)
|
"ถ้าท่านเป็นบุตรของพระเจ้า
จงสั่งก้อนหินนี้ให้กลายเป็น
พระกระยาหาร" (ข้อ ๓)
(อาหาร)
|
“มารจึงนำพระองค์ขึ้นไป
สำแดงบรรดาราชอาณาจักรทั่วพิภพในขณะเดียวให้พระองค์เห็น” (ข้อ ๕)
|
“ถ้าท่านเป็นพระบุตรของพระเจ้า
จงโจนลงไปจากที่นี่เถิด”
(ข้อ ๙)
|
ด้วยการดำเนินงานของซาตานได้กระทำมาอย่างยาวนาน
มันจะรู้ว่ากับดักแบบไหนเหมาะกับใคร
ในปัจจุบันซาตานก็ยังใช้อุบายทั้งสามอย่างนี้เช่นกัน
มันใช้ “ความปรารถนาทางกาย” เพื่อล่อลวงผู้คน
ให้ประพฤติผิดศีลธรรมหรือหมกมุ่นในเรื่องการกินการดื่ม
มันใช้ “ความปรารถนาทางตา” เพื่อล่อลวงผู้คนให้ดูสื่อลามก โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางอินเทอร์เน็ตและมันใช้ความปรารถนาของคนเราที่จะ “โอ้อวดทรัพย์สมบัติ” เพื่อทำให้ผู้คนหยิ่งยโสและอยากมีอำนาจ ชื่อเสียง และทรัพย์สมบัติมากๆจนละทิ้งองค์พระผู้เป็นเจ้า
อ่านบทความอื่นๆได้ที่ http://theword-2015.blogspot.com/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น