“จงขอโดยพระวิญญาณทุกเวลา”
(อฟ.6:18) วิถีทางหนึ่งที่พวกเราจะสนับสนุนผู้รับใช้ของพระเจ้าในการประกาศข่าวประเสริฐก็ด้วยการอธิษฐาน
สงครามฝ่ายวิญญาณที่คริสเตียนกำลังต่อสู้
กับขุมพลังฝ่ายวิญญาณของซาตานนั้น
การอธิษฐานอย่างจริงจังจะช่วยบรรเทาลดความรุนแรงได้
ต้องเป็นการอธิษฐาน
“ในพระวิญญาณ” “อธิษฐานทุกเวลา”
“ด้วยคำอธิษฐานทุกรูปแบบ” “อธิษฐานเผื่อประชากรของพระเจ้าทั้งปวง” และ“เฝ้าระวังอธิษฐาน”
ในการใช้ชีวิตที่รีบเร่งในยุคปัจจุบัน
ด้วยถ้อยคำอธิษฐานขอบพระคุณสั้นๆ
เร็วๆ
ในทุกโอกาสก็เป็นการฝึกฝนตอบสนองต่อการอธิษฐานตลอดทั้งวันจนติดเป็นนิสัยได้
การอธิษฐานเป็นความร่วมมือของพี่น้องคริสเตียนกับพระเจ้า
พวกเราจะได้รับชัยชนะ
ความเกียจคร้านในการอธิษฐานอย่างขะมักเขม้น
จะเป็นสัญญาณของ
การยอมแพ้ต่อศัตรู
กลับมาดูชีวิตของอับซาโลม
และกษัตริย์ดาวิด
สภษ.3:31-35
อย่าอิจฉาคนที่ทารุณ
อย่าเลือกทางใดๆ
ของเขาเลย 32เพราะคนตลบตะแลงเป็นที่เกลียดชังต่อพระเจ้า
แต่คนเที่ยงธรรมอยู่ในความไว้พระทัยของพระองค์ 33 คำสาปของพระเจ้าอยู่บนเรือนของคนชั่วร้าย
แต่พระองค์ทรงอำนวยพระพรแก่ที่อาศัยของคนชอบธรรม 34พระองค์ทรงเยาะเย้ยคนที่มักเยาะเย้ย
แต่พระองค์ทรงสำแดงพระคุณแก่คนใจถ่อม 35คนฉลาดจะได้เกียรติเป็นมรดก
แต่คนโง่จะได้ความอัปยศอับซาโลมจบชีวิตอย่างไร้เกียรติ
และนี้เป็นคำเตือนสำหรับทุกคนที่ปฏิบัติต่อคนอื่นอย่างเลวร้าย
โดยเฉพาะต่อผู้ที่พระเจ้าทรงเจิม
เช่น
กษัตริย์ดาวิด
ในการทำสงครามกองทัพของอับซาโลมพ่ายแพ้ตัวอับซาโลมเองขี่ล่อหนีไป
ด้วยผมที่ดกยาวของเขาก็ไปพันเข้ากับง่ามไม้
ของกิ่งที่อยู่ส่วนล่างของต้นไม้ใหญ่เขาห้อยติดอยู่ที่นั่น
ยังมีชีวิตอยู่แต่ช่วยตัวเองไม่ได้เลย
จนกระทั่งโยอาบได้ฆ่าเขาโดยใช้หอกสั้นสามอันแทงเข้าที่หัวใจเขา(2ซมอ.18:6-17) กษัตริย์ดาวิดคงจะดีใจเพราะกบฏได้ถูกปราบแล้ว ไม่ใช่เลย
ในทางกลับกันพระองค์เสียพระทัยเป็นอย่างมากพระองค์เดินวนไปเวียนมาร้องไห้และตรัสว่า"โออับซาโลมบุตรของเรา
บุตรของเรา
อับซาโลมบุตรของเราเอ๋ยเราอยากจะตายแทนเจ้า โอ
อับซาโลมบุตรของเรา
บุตรของเราเอ๋ย"
(2ซมอ.18:33) ถึงแม้ว่าอับซาโลมได้กระทำทุกวิถีทางที่จะต่อสู้กับพระราชบิดา
แต่กระนั้นกษัตริย์ดาวิดก็ทรงมีความคิดเพียงอย่างเดียวว่า
ขอไว้ชีวิตแก่พระราชบุตรของพระองค์
2ซมอ.18:5
พระราชารับสั่งโยอาบ
อาบีชัย
และอิททัยว่า
"เบาๆมือกับชายหนุ่มนั้น
ด้วยเห็นแก่เราเถิดคือกับอับซาโลม"พวกพลก็ได้ยินคำรับสั่งซึ่งพระราชาประทานแก่ผู้บังคับบัญชาด้วยเรื่องอับซาโลม
เมื่อโยอาบขัดขืนคำสั่งของกษัตริย์ดาวิด และฆ่าอับซาโลมพระองค์จึงเสียพระทัยเป็นอย่างมาก
พระองค์ไม่ได้ถือโทษ
โกรธ
หรือแก้แค้นราชบุตรเลย
คุณลักษณะนี้แหล่ะที่ทำให้กษัตริย์ดาวิดทรงเป็น
“บุรุษที่พระเจ้าพอพระทัย”
สดด.4:3 จงทราบเถิดว่า
พระเจ้าทรงแยกธรรมิกชนไว้สำหรับพระองค์พระเจ้าทรงสดับฟังเมื่อข้าพเจ้าทูลพระองค์
สดุดีบทที่
4
เป็นคำอธิษฐานด้วยความรู้สึกแรงกล้าของกษัตริย์ดาวิดที่แสดงออกอย่างชัดเจนว่าพระองค์ไว้วางใจพระเจ้าอย่างเต็มที่
พระองค์อาจจะประพันธ์บทนี้เพื่อแสดงความรู้สึกโล่งอก
และขอบพระคุณพระเจ้า
หลังจากที่การกบฏของอับซาโลมล้มเหลว
หรือประพันธ์บทนี้โดยนึกถึงนักร้องชาวเลวี
ไม่ว่าจะประพันธ์ด้วยเหตุผลใด
สดุดีบทนี้ช่วยหนุนใจให้พวกเราไว้วางใจพระเจ้ามากขึ้น
กษัตริย์ดาวิดได้เตือนพวกศัตรูของพระองค์ที่จะทำบาปต่อพระเจ้าโดยการต่อต้านกษัตริย์ที่รับการเจิมของพระองค์
สดด.4: 1 ข้าแต่พระเจ้าผู้ทรงให้ประจักษ์ว่า
ข้าพระองค์เป็นฝ่ายชอบธรรม
ขอทรงโปรดตอบเมื่อข้าพระองค์ร้องทูลเมื่อข้าพระองค์จนตรอก
ขอพระองค์ประทานช่องทางให้
ขอทรงเมตตาแก่ข้าพระองค์และทรงฟังคำอธิษฐานของข้าพระองค์
กษัตริย์ดาวิดเรียกร้องให้พระเจ้าฟังและตอบคำอธิษฐาน
พระองค์ได้วิงวอนต่อพระเจ้าในฐานะ
ผู้ชอบธรรมผู้ซึ่งได้รับการช่วยกู้จากความลำบากมาก่อน
พระเจ้ามีความชอบธรรมในพระองค์เองพระเจ้าจะกระทำสิ่งที่ถูกต้องเพื่อลูกๆของพระองค์
คือการช่วยกู้พวกเขา
เมื่อพวกเขาต้องการความช่วยเหลือ
สดด.4: 2-5 ท่านผู้ดีเอ๋ย
ข้าพเจ้าจะต้องเสื่อมเกียรติไปอีกนานเท่าใด
ท่านจะรักคำไร้ค่า
และแสวงการมุสาอีกนานเท่าใด
3จงทราบเถิดว่า
พระเจ้าทรงแยกธรรมิกชนไว้สำหรับพระองค์
พระเจ้าทรงสดับฟังเมื่อข้าพเจ้าทูลพระองค์
4โกรธก็โกรธเถิด
แต่ {หรือ
จงเกรงกลัว
และ} อย่าทำบาป
จงคำนึงในใจเวลาอยู่บนที่นอนและสงบอยู่
5จงถวายเครื่องสัตวบูชาให้ถูกต้อง
และวางใจในพระเจ้า
พวกศัตรูของกษัตริย์ดาวิดแตกต่างจากคนของพระเจ้า
พวกเขาเป็นคนบาปแต่พระองค์ชอบธรรม ถ้าพวกเขาเป็นอับซาโลมและผู้ติดตามของเขา หรือใครก็ตามที่พวกเขาเป็น
พวกเขาก็ได้พยายามที่ จะเปลี่ยนเกียรติของกษัตริย์ดาวิดในฐานะกษัตริย์ที่ชอบธรรม
ไปสู่ชื่อเสียงที่ไม่ดีด้วยการโกหกของพวกเขา
พระองค์เป็นผู้ชอบธรรม
ด้วยเหตุที่พระเจ้าเลือกสรรพระองค์สำหรับจุดประสงค์พิเศษ
นั่นก็หมายความว่า
ความชอบธรรมของพระองค์เป็นผลลัพธ์ของการทรงเรียกจากพระเจ้าซึ่งกันพระองค์ไว้เพื่อจุดประสงค์พิเศษของพระเจ้านั้นเอง
กษัตริย์ดาวิดจึงมั่นใจว่าพระเจ้าจะได้ยินคำอธิษฐานของพระองค์
ในการดำเนินชีวิตเพื่อรักษาความเชื่อที่มีต่อพระเจ้าพวกเราจำเป็นต้องกล้าและวางใจในองค์พระผู้เป็นเจ้าอย่างสุดจิต
สุดใจ
สุดกำลังความคิด
โดยเฉพาะผู้ที่กลับใจรับเชื่อใหม่
ต้องเผชิญกับการต่อต้านจากคนรอบข้าง
และครอบครัวของตนเองอย่างแน่นอน
“กล้าและวางใจ” สองสิ่งนี้จะหนุนใจได้
สดด.84:11-12
เพราะพระเจ้าทรงเป็นดวงอาทิตย์และเป็นโล่
พระองค์ทรงปูนความชอบและเกียรติ
พระเจ้ามิได้ทรงหวงของดีอันใดไว้เลย
จากบุคคลผู้เดินอย่างเที่ยงธรรม 12ข้าแต่พระเจ้าจอมโยธา
บุคคลที่วางใจในพระองค์ก็เป็นสุข พระเจ้าทรงอวยพรคนที่สัตย์ซื่อต่อพระองค์
พวกเขาจะดำเนินชีวิตด้วยความยินดี
และเป็นสุข
อ่านบทความอื่นๆได้ที่ http://theword-2015.blogspot.com/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น