วันอังคารที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2559

โปรดระวัง...เถอะ (ตอนแรก)


ฟป.3:1-11
เพราะว่าเราทั้งหลายเป็นพวกถือพิธีเข้าสุหนัตแท้ เป็นผู้นมัสการพระเจ้าด้วย
จิตวิญญาณ และอวดพระเยซูคริสต์ และไม่ได้ไว้ใจในเนื้อหนัง ถึงแม้ว่าข้าพเจ้าเอง
มีเหตุที่จะไว้ใจในเนื้อหนัง ถ้าผู้อื่นคิดว่าเขามีเหตุผลที่จะไว้ใจในเนื้อหนัง
***************
          คริสตจักรคือ กลุ่มชนที่พระเจ้าทรงเรียกออกมาจากความบาปโดยการทรงไถ่(ด้วยความเชื่อ)เพื่อรับพระพรจากพระองค์ กท.3:25-28 แต่บัดนี้ความเชื่อนั้นได้มาแล้ว เราจึงมิได้อยู่ใต้บังคับของผู้ควบคุมอีกต่อไปแล้ว26เพราะว่า ท่านทั้งหลายเป็นบุตรของพระเจ้าร่วมในพระเยซูคริสต์โดยความเชื่อ 27เพราะเหตุว่าคนที่รับบัพติศมาเข้าร่วมใน   พระคริสต์แล้ว ก็จะสวมชีวิตพระคริสต์ 28จะไม่เป็นยิวหรือกรีก จะไม่เป็นทาสหรือไท จะไม่เป็นชายหรือหญิง เพราะว่าท่านเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันโดยพระยซูคริสต์ คริสตจักรจึงเป็นการรวมกันเป็นหนึ่งเดียวกันของพระเยซูคริสต์กับผู้ที่ได้ตัดสินใจติดตามพระองค์  เหมือนดั่งศีรษะกับกายที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน พระองค์จึงเป็นเหตุที่คริสตจักรมีชีวิต และจำเริญเติบโตได้ ดังนั้นคริสตจักรที่กล่าวไว้ในพระคำนี้จึงหมายถึง บรรดาคริสเตียนทุกคน ทุกยุค ทุกสมัย อฟ.5:27เพื่อพระองค์จะได้มีคริสตจักรที่มีสง่าราศีไม่มีตำหนิริ้วรอย หรือ    มลทินใดๆเลย แต่บริสุทธิ์ปราศจากตำหนิ ในสายพระเนตรของพระองค์ คริสตจักรได้รับความชอบธรรมจากพระเจ้า โดยทางพระเยซูคริสต์พระองค์จึงทรงเห็นว่าคริสตจักรที่อยู่ใน      พระคริสต์ไม่ควรมีตำหนิริ้วรอยหรือมลทินแต่อย่างใด          
            ในพระธรรมกิจการ เปาโลได้เดินทางทั่วจักรวรรดิโรมัน เพื่อเทศนาประกาศข่าวประเสริฐ และเริ่มก่อตั้งคริสตจักร เป็นพันธกิจที่น่าตื่นเต้นและเสี่ยงตายอย่างมาก ถึงแม้ว่าเปาโลจะเผชิญกับความทุกข์ยากนานานับประการ แต่เขาก็ทำงานจนเกิดผล ปัญหาที่ตามมาของการก่อตั้งคริสตจักรก็คือ การรักษาชุมชนของผู้เชื่อใหม่เหล่านี้ ให้อยู่ในทิศทางที่ถูกต้องกับพระเจ้า หลังจากที่เปาโลจากไปแล้วได้อย่างไร ผู้เชื่อใหม่ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในเมืองต่างๆ ที่นับถือพระเทียมเท็จ กราบไหว้รูปเคารพ และดำเนินชีวิตที่เสื่อมทรามทางศีลธรรมอย่างร้ายแรง ในบางสถานที่เปาโลยังเทศนาไม่เสร็จก็ถูกขับไล่  ทั้งที่ยังมีสาระของข่าวประเสริฐอีกมากที่จะประกาศแก่พวกเขา นอกจากพวกศัตรูเหล่านั้นแล้ว เปาโลยังต้องต่อสู้กับพวกครูสอนเทียมเท็จที่วนเวียนไปมาเพื่อสร้างความปั่นป่วนสับสนในหมู่ผู้เชื่อใหม่ ด้วยการพยายามทำลายความน่าเชื่อถือ ของเปาโลและพันธกิจของเขา คริสตจักรเมืองฟิลิปปีก็ประสบปัญหาเช่นนี้เหมือนกัน
            ในพระธรรมกิจการบทที่16 ข้อ 9-40 เป็นเหตุการณ์การเดินทางออกประกาศข่าวประเสริฐครั้งที่ 2 ของเปาโลและผู้ร่วมงาน(สิลาส ทิโมธี ลูกา) กจ.16:9-12 ในเวลากลางคืน เปาโลได้นิมิตเห็นชาวมาซิโดเนียคนหนึ่งยืนอ้อนวอนว่า "ขอโปรดมาช่วยพวกข้าพเจ้าในแคว้นมาซิโดเนียเถิด" 10ครั้นท่านเห็นนิมิตนั้นแล้ว เราจึงหาโอกาสทันทีที่จะไปยังแคว้น     มาซิโดเนีย ด้วยเห็นแน่ว่า พระเจ้าได้ทรงเรียกเราให้ไปประกาศข่าวประเสริฐแก่ชาวแคว้นนั้น 11เหตุฉะนั้นเมื่อออกจากเมืองโตรอัส แล้วก็ลงเรือตรงไปยังเกาะสาโมธรัส และรุ่งขึ้นก็ถึงเมืองเนอาบุรี 12เมื่อออกจากที่นั่นแล้ว ก็ได้ไปยังเมืองฟีลิปปี ซึ่งเป็นเมืองเอกในเขตแคว้น       มาซิโดเนีย และเป็นอาณานิคมของโรม เราจึงพักอยู่ในเมืองนั้นหลายวัน ในการเดินทางครั้งนั้นก็ได้ ตั้งคริสตจักรเมืองฟีลิปปีขึ้น ซึ่งน่าจะเป็นการตอบสนองต่อนิมิตที่พระเจ้าประทานให้แก่เปาโลที่เมืองโตรอัส นับว่าคริสตจักรเมืองฟีลิปปีเป็นคริสตจักรแรกในภาคพื้นยุโรป
ฟป.4:15-16 และพวกท่านชาวฟีลิปปีก็ทราบอยู่แล้วว่า การประกาศข่าวประเสริฐในเวลาเริ่มแรกนั้น มาตอนเมื่อข้าพเจ้าออกไปจากแคว้นมาซิโดเนีย ไม่มีคริสตจักรใดมีส่วนร่วมกับข้าพเจ้าในรายรับรายจ่ายเลย นอกจากพวกท่านพวกเดียวเท่านั้น 16ถึงแม้เมื่อข้าพเจ้าอยู่ที่เมืองเธสะโลนิกา พวกท่านก็ได้ฝากของมาช่วยหลายครั้งหลายหนความสัมพันธ์ระหว่าง   เปาโลกับคริสตจักรเมืองฟีลิปปี เป็นไปอย่างเหนียวแน่นด้วยทางคริสตจักรได้ให้การสนับสนุนพันธกิจของเปาโลอย่างเต็มที่
            ฟป.1:13-14 จนประจักษ์ทั่วกันในหมู่ผู้คุมและคนอื่นๆว่า การที่ข้าพเจ้าถูกจำจองนั้น ก็เพื่อพระคริสต์ 14และพี่น้องส่วนมากได้เกิดความไว้วางใจในองค์พระผู้เป็นเจ้า เนื่องด้วยการจำจองของข้าพเจ้า และพวกเขามีใจกล้าขึ้น ที่จะกล่าวพระวจนะของพระเจ้าโดยปราศจากความกลัว เปาโลเขียนจดหมายถึงคริสตจักรฟีลิปปีเมื่อครั้งถูกคุมขังอยู่ในคุกซึ่งเชื่อว่าเป็นคุกที่กรุงโรม เอปาโพรดิทัสซึ่งเป็นคนหนึ่งในคริสตจักร ที่ถูกส่งมาให้ดูแลท่าน และนำของฝากจากคริสตจักรมามอบให้ท่านด้วย เปาโลจึงเขียนจดหมายฉบับนี้เพื่อขอบคุณ และหนุนใจพวกเขาในด้านความเชื่อ
          ฟป.3:1-11 สุดท้ายนี้ ขอให้พวกพี่น้องของข้าพเจ้า ชื่นชมยินดีในองค์พระผู้เป็นเจ้า การที่ข้าพเจ้าเขียนข้อความเหล่านี้ถึงท่านซ้ำอีก ก็หาเป็นการลำบากแก่ข้าพเจ้าไม่ และเป็นการปลอดภัยสำหรับท่านด้วย 2จงระวังพวกสุนัข จงระวังบรรดาคนที่ทำชั่ว จงระวังพวกถือการเชือดเนื้อเถือหนัง 3เพราะว่าเราทั้งหลายเป็นพวกถือพิธีเข้าสุหนัตแท้ เป็นผู้นมัสการพระเจ้าด้วยจิตวิญญาณ และอวดพระเยซูคริสต์ และไม่ได้ไว้ใจในเนื้อหนัง ถึงแม้ว่าข้าพเจ้าเองมีเหตุที่จะไว้ใจในเนื้อหนัง ถ้าผู้อื่นคิดว่าเขามีเหตุผลที่จะไว้ใจในเนื้อหนัง 4ข้าพเจ้าก็มีมากกว่าเขาเสียอีก 5คือเมื่อข้าพเจ้าเกิดมาได้แปดวันก็ได้เข้าสุหนัต ข้าพเจ้าเป็นชนชาติอิสราเอล เผ่าเบนยามิน เป็นชาติฮีบรู เกิดจากชาวฮีบรู ในด้านธรรมบัญญัติก็อยู่ในคณะฟาริสี 6ในด้านความกระตือรือร้น ก็ได้ข่มเหงคริสตจักร ในด้านความชอบธรรมซึ่งมีอยู่โดยธรรมบัญญัติ ข้าพเจ้าก็ไม่มีที่ติได้ 7แต่ว่าสิ่งใดที่เคยเป็นคุณประโยชน์แก่ข้าพเจ้า ข้าพเจ้าถือว่าสิ่งนั้นไร้ประโยชน์แล้ว เพื่อเห็นแก่พระคริสต์ 8ที่จริงข้าพเจ้าถือว่าสิ่งสารพัดไร้ประโยชน์ เพราะเห็นแก่ความประเสริฐแห่งความรู้ถึงพระเยซูคริสต์ องค์พระผู้เป็นเจ้าของข้าพเจ้า เพราะเหตุพระองค์ ข้าพเจ้าจึงได้ยอมสละสิ่งสารพัด และถือว่าสิ่งเหล่านั้นเป็นเหมือนหยากเยื่อเพื่อข้าพเจ้าจะได้พระคริสต์ 9และจะได้ปรากฏอยู่ในพระองค์ ไม่มีความชอบธรรมของข้าพเจ้าเอง ซึ่งได้มาโดยธรรมบัญญัติ แต่มีมาโดยความเชื่อในพระคริสต์ เป็นความชอบธรรมซึ่งมาจากพระเจ้าซึ่งขึ้นอยู่กับความเชื่อ 10ข้าพเจ้าต้องการจะรู้จักพระองค์ และได้รับประสบการณ์ในฤทธิ์เดช เนื่องในการที่พระองค์ทรงคืนพระชนม์นั้น และร่วมทุกข์กับพระองค์ คือยอมตั้งอารมณ์ตายเหมือนพระองค์ 11ถ้าเป็นไปได้ข้าพเจ้าก็จะได้เป็นขึ้นมาจากความตายด้วย
อ่านบทความอื่นๆได้ที่ http://theword-2015.blogspot.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น